คุณวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ทิพยประกันภัย ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี ร่วมกับศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และมูลนิธิธรรมดี นำคณะครูอาจารย์จากสถาบันการศึกษาต่างๆ กว่า 40 คน ร่วมกิจกรรม “ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 9” เยือนอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา และโครงการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน มูลนิธิชัยพัฒนา จังหวัดปราจีนบุรี พร้อมร่วมกันสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้และปลูกฝังคุณธรรม 4 ประการ พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา ให้กับเยาวชน
โดยกิจกรรมตามรอยพระราชาครั้งนี้ได้ นำคณะครูอาจารย์จากสถาบันการศึกษาต่างๆ กว่า 40 คนร่วมกิจกรรมเยือนอ่างเก็บน้ำ นฤบดินทรจินดา โครงการปลูกผักโดยไม่ใช้ดิน มูลนิธิชัยพัฒนา จังหวัดปราจีนบุรี ในวันนี้ มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องด้วยเป็นอ่างเก็บน้ำแห่งสุดท้ายในพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
คณะเดินทางไปยังโครงการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน มูลนิธิชัยพัฒนา โครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งมีพระราชกระแสให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาจัดสรรพื้นที่ที่ศาสตราจารย์ดร.มนู อมาตยกุล น้อมเกล้าฯ ถวาย จำนวน 15 ไร่ 3 งาน 30.6 ตารางวา ในตำบลบ้านพระ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ให้กับหน่วยงานต่างๆ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาที่ดินให้เกิดประโยชน์กับชุมชน ในส่วนของสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาได้จัดทำโครงการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน (Hydroponics) ในพื้นที่ของมูลนิธิฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 จำนวน 3 ไร่ โดยจัดทำเป็นโครงการนำร่องและแปลงสาธิตการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินต้นทุนต่ำ ด้วยการประยุกต์ใช้วัสดุในท้องถิ่น เช่น ไม้ไผ่ ไม้ยูคาลิปตัส กระเบื้องเก่า มาดัดแปลงเป็นโต๊ะปลูกผัก เพื่อผลิตผักปลอดภัยได้มาตรฐาน พร้อมทั้งขยายผลส่งเสริมให้แก่ประชาชนที่สนใจ คณะครูยังได้เรียนรู้ผ่านการลงมือทำในกิจกรรมแปลงร่างเมล็ดพันธุ์เป็นแปลงผักไม่ใช้ดินอีกด้วย
จากนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เดินทางสู่อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา เพื่อร่วมพิธีเปิดโครงการ “ทิพย สืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 9” และร่วมรับฟังการบรรยายถึงประวัติความเป็นมาของโครงการ ซึ่งโครงการห้วยโสมง อันเนื่องมาจากพระราชดำรินั้น ถือเป็นโครงการชลประทานขนาดใหญ่แห่งสุดท้ายอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อให้ราษฎรในพื้นที่มีน้ำใช้ในการเพาะปลูกและอุปโภคบริโภคตลอดทั้งปี รวมถึงช่วยป้องกันน้ำท่วม และรักษาระบบนิเวศในแม่น้ำปราจีนบุรีและบางปะกง อ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีความจุ 295 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมระบบส่งน้ำและระบายน้ำ ครอบคลุมพื้นที่ชลประทาน 111,300 ไร่
สำหรับผู้ร่วมกิจกรรมตามรอยพระราชาทุกคนยังได้รับชุดหนังสือภาษาอังกฤษ “King Bhumibol Adulyadej of Thailand” จำนวน 3 เล่ม ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติพระราชจริยวัตร และพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นำศึกษาเรียนรู้และนำไปถ่ายทอดแก่นักเรียนผ่านหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้เยาวชนรุ่นหลังได้รู้จักพระองค์ท่านและสามารถสื่อสารให้ชาวต่างชาติฟังได้ว่า ทำไมคนไทยถึงรักในหลวงรัชกาลที่ 9 ทั้งยังให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตเพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณธรรม
ซึ่งหลังจากการลงพื้นที่เรียนรู้ด้วยการปฏิบัติแล้ว คณะครูได้ทำกิจกรรมถอดบทเรียน นำโดยนายอดุลย์ ดาราธรรม นายกสมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย ผ่านเกมกระดานสื่อการเรียนรู้ 3 แบบ ได้แก่ “Game of Our Nation” ที่สอดแทรกคุณธรรม 4 ประการ คือ พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา , “9 ตามรอยนวัตกรรมของพ่อ ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนระดับสากล” ถอดบทเรียนและต่อยอดสร้างสรรค์เป็นนวัตกรรมจากกิจกรรมตามรอยพระราชา และ “The King’s Journey Learn English an Example of an Invention” เรียนรู้ภาษาอังกฤษจากหนังสือชุด King Bhumibol Adulyadej of Thailand ซึ่งคณะครูอาจารย์สามารถนำนวัตกรรมการเรียนรู้ไปต่อยอดการเรียนการสอนสำหรับเยาวชนต่อไป