มิติหุ้น – TOP ลั่นธุรกิจครึ่งหลังปี 63 ไม่ขาดทุนสต็อก หลังราคาน้ำมันผ่านจุดต่ำสุด – มองค่าการกลั่นใกล้เคียงไตรมาส 1/63 เตรียมอัดงบเดินหน้าลงทุนโครงการ CFP เพิ่ม ฟากโบรกฯ ให้คำแนะนำถือ เคาะเป้า 47 บาท ชี้มีลุ้นรับออเดอร์เพิ่ม
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยออยล์ หรือ TOP ผู้ประกอบธุรกิจการกลั่น และจำหน่ายน้ำมันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยแหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจครึ่งหลังปี 63 ประเมินว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากคลายล็อกดาวน์ในประเทศทำให้การเดินทางขนส่งด้วยรถยนต์กลับสู่ภาวะปกติ และส่งผลให้มีการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับมองราคาน้ำมันผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/63
ทุ่มงบลงทุนโครงการ CFP
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเงินลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังไว้ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่นำมาลงทุนในโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project หรือ CFP) โดยทั้งโครงการต้องใช้เงินรวมทั้งสิ้น 4.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยบริษัทจะทยอยลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแผนการลงทุนต่อเนื่องจากปีก่อน เบื้องต้น คาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผน พร้อมดำเนินงานได้ในปี 2566
แนะนำ“ถือ”- มีลุ้นออเดอร์เพิ่ม
ฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำถือ TOP ให้ราคาพื้นฐาน 47 บาท จากผู้บริหารคาดแนวโน้มธุรกิจครึ่งหลังปี 63 จะไม่มีบันทึกขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน เนื่องจากประเมินราคาน้ำมันดิบผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วตั้งแต่เดือน เม.ย.-พ.ค. โดยคาดครึ่งปีหลังราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวในกรอบ 40 -45 เหรียญสหัฐ/บาร์เรล และมองค่าการกลั่น (GRM) ที่ไม่รวมกำไร/ขาดทุนจากสต็อกในครึ่งปีหลังคาดทำได้ใกล้เคียงไตรมาส 1/63 ที่ 0.1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ขณะที่ธุรกิจอะโรเมติกส์ทั้ง PX และ BZ ยังท้าทาย จากสต็อกที่สูง และมีกำลังการผลิตเข้ามาเพิ่มจากประเทศจีน ส่วนตลาดน้ำมันหล่อลื่นก็ยังถูกกดดันจากอุปทานใหม่เข้ามาเพิ่ม ส่วนยางมะตอยมีดีมานด์เพิ่มขึ้นจากการสร้างและซ่อมถนน
อย่างไรก็ดี TASCO อาจจะซื้อยางมะตอยจาก TOP เพื่อไปทำธุรกิจ Trading ซึ่งส่วนนี้จะเป็น Positive upside กับบริษัท
www.mitihoon.com
