มิติหุ้น – ASIMAR ได้ฤกษ์ดี จัดพิธีวางกระดูกงูเรือเก็บขยะ ขนาดความยาวตลอดลำ 14 เมตร ให้กับกรมโยธาธิการและผังเมือง จำนวน 2 ลำ มูลค่ากว่า 27 ล้านบาท ชูนวัตกรรมเครื่องบีบอัดผักตบชวาพร้อมเครนติดตั้งบนเรือที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR เปิดเผยถึงงานล่าสุดที่ได้รับจากกรมโยธาธิการและผังเมืองที่มอบความไว้วางใจให้บริษัทฯเป็นผู้ออกแบบและต่อสร้างเรือกำจัดผักตบชวาและวัชพืชพร้อมเครื่องบีบอัดและเครน จำนวน 2 ลำ มูลค่ากว่า 27 ล้านบาท โดยรูปแบบของเรือชุดนี้ได้ติดตั้งนวัตกรรมเครื่องบีบอัดผักตบชวาที่จะช่วยลดปริมาตร (Volume) ของผักลง 8-10 เท่า ซึ่งจะทำให้การเก็บผักตบชวาในแม่น้ำลำคลองสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง ลดจำนวนเที่ยวเรือที่จะต้องแล่นกลับมาขนถ่ายผักตบชวาขึ้นฝั่งได้จากเดิม 8-10 เที่ยวเหลือเพียง 1 เที่ยว ประโยชน์ที่ได้รับคือการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บผักตบชวาและลดการสูญเปล่าของน้ำมันเชื้อเพลิง นับเป็นครั้งแรกที่มีการออกแบบและติดตั้งเครื่องบีบอัดพร้อมติดตั้งเครนขนถ่ายบนเรือกำจัดผักตบชวา ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ของผู้ใช้งาน (Voice of Customer) อย่างแท้จริง โดยมีกำหนดส่งมอบประมาณเดือนเมษายน 2564 เพื่อนำไปปฏิบัติการจัดเก็บผักตบชวาและวัชพืชเพื่อแก้ปัญหาการระบายน้ำ และลดปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำในเขตพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีต่อไป
ทั้งนี้ บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2524 ดำเนินธุรกิจหลักด้านการต่อเรือและซ่อมเรือ รวมทั้งงานก่อสร้างด้านวิศวกรรมต่างๆ มานานกว่า 39 ปี มีพนักงานมากกว่า 400 คน และยังเป็นอู่เรือชั้นนำแห่งแรกของประเทศไทยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 : 2015 ISO 14001 : 2015 และ ISO 45001 : 2018 จากสถาบัน Lloyd’s Register ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศให้จัดสร้างเรือ โดยมีผลงานการซ่อมเรือเฉลี่ยปีละ 80 ลำ และมีผลงานต่อเรือมาแล้วมากกว่า 100 ลำ
บริษัทฯเป็นผู้นำในวงการต่อเรือกำจัดผักตบชวาและวัชพืช โดยมีผลงานต่อเรือกำจัดผักตบชวาและวัชพืชให้กับกรมโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานท้องถิ่นต่างๆ อย่างต่อเนื่อง มากกว่า 16 ลำ โดยได้นำประสบการณ์จากผู้ใช้งานมาพัฒนาต่อยอดให้ผลิตภัณฑ์มีคุณลักษณะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง