ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง หรือ ETE ทำธุรกิจบริการบริหารจัดการ-งานวิศวกรรม-โซลาร์ฟาร์ม โดย “นายไรวินท์ เลขวรนันท์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า วันที่ 12 พ.ย.63 นี้ บริษัทจะประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/63 เบื้องต้นจะเติบโตได้ดี และไตรมาส 4/63 จะเติบโตสูงสุดแห่งปี เนื่องจากบริษัทจะทยอยรับรู้รายได้งานในมือ (Blacklog) อย่างต่อเนื่อง
ซุ่มชิงงานใหญ่4พันล.
ส่วนภาพรวมธุรกิจช่วงที่เหลือของปี 63 บริษัทจะได้รับอานิสงส์กรณีที่ภาครัฐบาลยังเร่งเดินหน้าโครงการลงทุนใหม่ๆ และการเดินหน้าโครงข่าย 5G ในประเทศ ยิ่งทำให้ปริมาณงานเข้าสู่ระบบมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานใหม่กว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นทั้งงานวิศวกรรมระบบโทรคมนาคม, บริการงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้า และ ธุรกิจบริหารจัดการ โดยคาดว่าจะได้รับงานใหม่ๆเข้ามาเป็นจำนวนมาก
โกยกำไรโรงไฟฟ้าทะลุ30ล.
สำหรับ “ธุรกิจพลังงานทดแทน” ที่ดำเนินการโดย บริษัทและบ.อีทีอี เมเนจเมนท์ หรือ ETEM ซึ่งมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งสิ้น 16.47 MWนั้น ภายหลังจากที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับปรุงระบบ จนทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้ามีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นทั้งปี 63 คาดกำไรจากโรงไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 31-32 ล้านบาท/ปี และ รายได้ที่ 132 ล้านบาท/ปี เมื่อเทียบกับปี 62 ที่มีกำไร 30 ล้านบาท/ปี และ รายได้ที่ 127 ล้านบาท/ปี
พร้อมกันนี้บริษัทยังมีแผนทุ่มงบลงทุนประมาณ 100-200 ล้านบาท เพื่อลงทุนพัฒนาระบบโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม และ ยังมองโอกาสการเข้าไปมีส่วนร่วมในการลงทุน “โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชุม” ของภาครัฐบาลที่จะออกมาขับเคลื่อนโครงงานภายในปลายปี 63 นี้อีกด้วย
ราคายังต่ำบุ๊กแวลู่1.52บ.
ด้าน“นักวิเคราะห์หลักทรัพย์” เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยแนะนำ “เพิ่มน้ำหนัก”เข้าลงทุนในหุ้น ETE เพราะธุรกิจได้เข้าสู่ช่วงขาขึ้นอย่างชัดเจน รวมถึงมีโอกาสเห็นการร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหญ่ เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าประมูลงานใหญ่ของทางภาครัฐอีกด้วย โดยปัจจุบันหุ้น P/BV 0.66 เท่า ราคายังต่ำกว่าบุ๊กแวลูที่ 1.52 บาท ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ”
www.mitihoon.com