มิติหุ้น-PLANET ฝ่าวิกฤต COVID-19 ไตรมาส3/63 ยังกำไร หลังปรับกลยุทธ์เน้นบริหารต้นทุนและการควบคุมค่าใช้จ่าย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านบิ๊กบอส “ประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์” มั่นใจธุรกิจจากนี้ส่งสัญญาณฟื้นตัว
นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการ ผู้อำนวยการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม ทำให้การจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารขนาดใหญ่และระบบถ่ายทอดทีวีดิจิทัลซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ รวมถึงรายได้จากการขายโครงการใหญ่ได้รับผลกระทบ โดยในไตรมาส 3/2563 มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการจำนวน 146.42 ล้านบาท ลดลง 58.83% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้รวมสำหรับงวดเก้าเดือนปี 2563 และปี 2562 มีจำนวน 477.27 ล้านบาท และ 688.60 ล้านบาทตามลำดับ ลดลงจำนวน 211.33 ล้านบาทหรือลดลง 30.69%
อย่างไรก็ตาม จากการปรับตัวและเตรียมพร้อมรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากวิกฤต COVID-19 บริษัทฯได้มุ่งเน้นบริหารต้นทุนและการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ในไตรมาสที่ 3/2563 บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ จำนวน 1.90 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 1.28% ของรายได้รวม เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2562 ซึ่งมีผลกำไรสุทธิ 8.66 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 2.39% ของรายได้รวม บริษัทฯ มีผลกำไรลดลง 6.76 ล้านบาท หรือลดลง 78.05% ส่วนงวดเก้าเดือน มีกำไรสุทธิ 0.73 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรา 0.15% ของรายได้รวม เมื่อเทียบกับงวดเก้าเดือนของปี 2562 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 9.46 ล้านบาทหรือ 1.37% บริษัทฯ มีกำไรลดลง 8.73 ล้านบาทหรือลดลง 92.28%
” ผลประกอบการของบริษัทฯ ในรอบเก้าเดือนของปีนี้ถ้าเทียบกับปีที่ผ่านมาโดยรวมจะเห็นว่ายอดรายได้ลดลงจากการขายโครงการใหญ่ ถึงแม้บริษัทฯ จะสามารถลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลง แต่ด้วยจำนวนรายได้ที่น้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ เหลือจำนวนน้อย อีกทั้งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจโดยภาพรวมยังไม่ฟื้นตัวจากการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมีผลกระทบในเรื่องของรายได้จากการขายงานโครงการเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม ผลจากการปรับตัวโดยการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนและการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในตลอดช่วงที่ผ่านมา สามารถช่วยรักษาความสามารถในการทำกำไรได้เป็นอย่างดี และแนวทางนี้ถือเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ” นายประพัฒน์กล่าว
สำหรับ แนวโน้มธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้จนถึงปีหน้า การจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารซึ่งเป็นธุรกิจหลักเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวจากการกระตุ้นการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ขณะที่รายได้จากกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีเกิดใหม่ (Emerging Technology Business) อาทิ แพลตฟอร์มประชุมออนไลน์ (Cloud Meeting Platform) สำหรับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) เพื่อรับมือวิกฤติไวรัส COVID-19, IoT Platform สำหรับพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City), TeleHealth Platform (การรักษาทางไกล) สำหรับกิจกรรมด้านสาธารณสุข ปัจจุบันถือว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และบริษัทฯมีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการขายงานโครงการ
www.mitihoon.com