มิติหุ้น– บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ หรือ QTC ประกาศผลงานงวด 9 เดือน มีรายได้รวม 751.88 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 129 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้การขายหม้อแปลงไฟฟ้า ขณะที่ธุรกิจเทรดดิ้ง จากการจำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์ LONGI Solar- Huawei Solar Inverter- DE BUSDUCT และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Q Solar1 มีความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้าน CEO “พูลพิพัฒน์ ตันธนสิน” ส่งซิก พร้อมระบุ อุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้า ส่งสัญญาณฟื้น รับกระแสการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ที่ทยอยออกสู่ตลาดมากขึ้น สั่งเดินหน้าปรับกลยุทธ์การตลาด เจาะฐานลูกค้าผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในอนาคต
นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ผู้ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 751.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.60 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 714.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% และมีกำไรสุทธิ จำนวน 129.55ล้านบาท เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 152.30 ล้านบาท
ส่วนงวดไตรมาส 3/2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 190.06 ล้านบาท ลดลง 22.33 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 212.39 ล้านบาท ลดลง 10% และมีกำไรสุทธิ จำนวน 23.70 ล้านบาท เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 33.26 ล้านบาท
จากรายได้และกำไรที่ลดลง มีผลมาจากภาวะเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของโรค Covid 19 ซึ่งบริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์การขายและนโยบายต่าง ๆ เพื่อเตรียมรับมือกับทุก ๆ สถานการณ์ จึงทำให้บริษัทยังคงทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จในส่วนของธุรกิจเทรดดิ้ง จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ ให้กับ LONGI Solar การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์การเปลี่ยนไฟฟ้ากระแสตรง(DC) ให้เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ(AC) เพื่อใช้กับแผงโซลาร์เซลล์ รวมไปถึงการจำหน่าย DE BUSDUCT และธุรกิจพลังงานในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ Q Solar 1 ซึ่งตั้งที่ จ.ปราจีนบุรี ขนาด 8.6 เมกะวัตต์อย่างต่อเนื่อง’
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) กล่าวเพิ่มอีกว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้าในช่วงปลายปี 2563 เริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้น ซึ่งตอบรับกับแผนผลิตไฟฟ้า PDP ฉบับปรับปรุง 1 ที่ได้รับมติเห็นชอบเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และจากความต้องการใช้หม้อแปลงไฟฟ้าของผู้ประกอบการด้านธุรกิจโรงไฟฟ้า อาทิ การไฟฟ้าภูมิภาค(กฟภ.) การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) รวมถึงบริษัทเอกชนในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่กลับมาดำเนินธุรกิจ และโรงงานมีการขยายไลน์การผลิต อีกทั้งความต้องการใช้หม้อแปลงไฟฟ้ายังได้รับประโยชน์จากนโยบายการส่งเสริมจากภาครัฐในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่เป็นตัวกระตุ้นการใช้หม้อแปลงไฟฟ้าเข้ามาอีกด้านหนึ่ง เพื่อรองรับการให้บริการในการชาร์จกระแสไฟฟ้ากับรถยนต์ที่ทยอยออกสู่ตลาด และมีการจำหน่ายเพิ่มขึ้นของค่ายรถชั้นนำ ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมในการให้บริการ เพราะมีสินค้ารองรับที่ครบวงจร ทั้งหม้อแปลงไฟฟ้า แผงโซลาร์เซลล์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter เพื่อใช้กับแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะมีสถานีให้บริการมากกว่า 7,000 สถานีทั่วประเทศ ทั้งสถานีให้บริการน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ร้านค้าปลีกต่างๆที่ใช้อุปกรณ์การชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ EV เพิ่มขึ้น
“ในส่วนของ QTC เอง ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าชั้นนำของไทย มั่นใจว่าบริษัทฯมีโอกาสที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าให้กับทางกลุ่มผู้ประกอบการสถานีให้บริการชาร์จกระแสไฟฟ้า โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาการทำการตลาด พร้อมแผนการลงทุน เบื้องต้นคาดว่าจะมีการได้งานติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าขนาด 1,500 KV ในรูปแบบหม้อแปลงประหยัดพลังงาน Amorphous รุ่นใหม่ที่ประหยัดพลังงานลงอีก 30% จากเดิมที่ถือว่าประหยัดมากแล้ว ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้” นายพูลพิพัฒน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังได้ตอกย้ำความมั่นใจถึงภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ว่า บริษัทฯจะมีรายได้ทั้งปี แตะระดับ 1,000 ล้านบาท ตามเป้าที่วางไว้ โดยช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯมีความสามารถในการทำรายได้รวม 751.88 ล้านบาทแล้ว ดังนั้นในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ จึงมั่นใจว่าจะได้ตามเป้า เนื่องจากยังมีการรับรู้รายได้ จากธุรกิจพลังงานโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม ของ Q Solar 1 ขนาด 8.6 เมกะวัตต์ประมาณ 140 ล้านบาท และมียอดขายหม้อแปลงในมือ (Backlog) จำนวนกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยส่งมอบสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง
www.mitihoon.com
