มิติหุ้น – COM7 ประกาศผลงานไตรมาส 3/63 โกยรายได้ 9,008.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% กําไร 372.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.7% จากการดำเนินธุรกิจได้ตามปกติภายหลังสถานการณ์โควิด-19
รวมถึงกำลังซื้อสินค้าเทคโนโลยียังได้รับการตอบรับต่อเนื่อง มองแนวโน้ม Q4 ได้อานิสงส์สินค้าใหม่เปิดตัว โดยเฉพาะรุ่น iPhone 12 ที่บริษัทฯ เป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ในไทย ด้วยปริมาณสาขาที่มากที่สุด รวมถึง มาตรการภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุน COM7 ได้รับประโยชน์
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยถึง ภาพรวมผลการดําเนินงานในไตรมาส 3/2563 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวมอยู่ที่ 9,008.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 กําไรขั้นต้น 1,141.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 กําไรส่วนของบริษัทใหญ่ 372.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.7 สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 24,977.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 กําไรส่วนของบริษัทใหญ่ 934.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.4
โดยภาพรวมผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งประเทศไทยควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับที่ดี ทําให้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยกลับมาดําเนินธุรกิจได้ และส่งผลให้ยอดขายของบริษัทฯ กลับเข้าสู่สภาวะปกติ และดีกว่าที่ตั้งเป้าไว้ โดยความต้องการซื้อสินค้าไอทียังคงไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งบริษัทฯ ยังคงได้รับอานิสงส์ของมาตรการ Work From Home และ Learn From Home ที่ความต้องการซื้อสินค้าของลูกค้ายังสูงอยู่ จากยอดขายที่อั้นในช่วงสถานการณ์ปิดเมือง (Lockdown) ความต้องการซื้อสินค้าไอที่ประเภท NoteBook & Tablet ยังคงมีเป็นจํานวนมาก
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ มาจากธุรกิจค้าปลีกเป็นหลัก (B2C) โดยเป็นการจำหน่ายผ่านช่องทางสาขา มีสัดส่วนร้อยละ 90 ของรายได้จากการขายและบริการ นอกจากนี้ อีกร้อยละ 10 คือช่องทางการจำหน่ายอื่นๆ ซึ่งมีการเติบโตสูงถึง ร้อยละ 46 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมียอดขายที่สำคัญคือ การขายผ่านทางออนไลน์ ทั้งในส่วนของเว็บไซต์และช่องทาง Market Place โดยบริษัทฯ ยังคงให้ความสําคัญและปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการในช่องทางนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้ง รุกการตลาดแบบ Omni Channel ด้วยการผสานจุดแข็งทางด้านสาขาของบริษัทฯ ที่มีอยู่ครอบคลุมทั่วประเทศ
สำหรับภาพรวมสาขาภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัท ณ สิ้นไตรมาส 3/2563 COM7 มีสาขารวมทั้งหมด 811 สาขา แบ่งเป็น BaNANA 257 สาขา Studio7 102 สาขา KingKong Phone 96 สาขา True Shop by Com7 121 สาขา แฟรนไชส์ 97 สาขา BKK 54 สาขา iCare 27 สาขา และอื่น ๆ 57 สาขา โดยมีการขยายเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วรวม 88 สาขา (ณ สิ้นไตรมาส 3/2562 : 723 สาขา)
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ตั้งเป้าสิ้นปีจะมีจํานวน 897 สาขา (เป้าการขยายสาขาต้นปี 900 สาขา) แต่เนื่องจากบริษัทยังคงได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ในบางสาขาที่จํานวนลูกค้ายังไม่กลับมา โดยเฉพาะสาขาที่อาศัยนักท่องเที่ยวเป็นหลัก และสาขากลุ่มของโซนโรงงานอุตสาหกรรมจึงทําให้ปีนี้บริษัทมีการปิดร้านถาวรเป็นจํานวน 36 สาขาเพื่อลดผลกระทบจากการลดลงของรายได้บริษัทฯ เน้นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างต่อเนื่อง และลงทุนเพื่อการเติบโต เพื่อรักษากระแสเงินสดจากการดําเนินการและความสามารถในการทํากําไร ไตรมาสนี้บริษัทได้มีการระบายสินค้าเพื่อให้ได้รับเงินสดและเตรียมรองรับสินค้ารุ่นใหม่
สำหรับ แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4/2563 มองมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2563 หลังมีการเปิดตัวสินค้าใหม่รุ่นเรือธงในหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ ทั้ง Apple Watch และ iPad รวมไปถึง
การเปิดตัว iPhone 12 สนับสนุนให้ยอดขายปลายปีคึกคัก โดย COM7 ในฐานะค้าปลีกรายใหญ่ที่จำหน่ายสินค้า Apple ในประเทศไทย ทั้งในแง่ของยอดขายและปริมาณสาขาที่มากที่สุด ได้รับอานิสงส์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่รุ่นดังกล่าว
ทั้งนี้ COM7 เตรียมวางจำหน่าย iPhone 12 ใหม่ ได้แก่ iPhone 12 Pro, iPhone 12 Pro Max, iPhone 12 และ iPhone 12 mini ลูกค้าสามารถสั่งซื้อ iPhone 12 รุ่นใหม่ล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 โดยจะวางจำหน่ายในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563
“ในช่วงปลายปีปกติจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ สินค้าใหม่จากหลากหลายแบรนด์ดังจะทยอยเปิดตัวและวางจำหน่าย ซึ่งไฮไลท์ปีนี้มาอยู่ที่สินค้ารุ่นเรืองธงที่สามารถรองรับระบบ 5G เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เป็นสัญญาณบวกในการนำเสนอสินค้าเทคโนโลยีที่มีความหลากหลายได้มากยิ่งขึ้น รวมถึง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในโครงการ “ช้อปดีมีคืน” โดยให้ผู้บริโภคที่ใช้จ่ายซื้อสินค้าตามเงื่อนไขมาหักลดหย่อนภาษีได้ เข้ามากระตุ้นกำลังซื้อ จึงยังคงมั่นใจ รายได้ในปีนี้เชื่อว่าจะยังคงเติบโตมากกว่าปีที่แล้ว โดยตั้งเป้าหมายเติบโต 10% จากปีก่อน” นายสุระกล่าวทิ้งท้าย
www.mitihoon.com