TFG ติดโผเข้า MSCI รอบใหม่ ขึ้นแท่นหุ้นยั่งยืน หนุนเชื่อมั่นอนาคตมั่นคง

92


มิติหุ้น – TFG
หุ้นแกร่ง ติดโผเข้าคำนวณดัชนี “MSCI Global Small Cap” รอบวันที่ 30 พ.ย.นี้ พร้อมได้รับคัดเลือกเข้าสู่รายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI ประจำปี 2563 ฟาก “วินัย เตียวสมบูรณ์กิจ “ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุ การได้รับคัดเลือก สะท้อนถึงความมุ่งมั่นการพัฒนาธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน และสนับสนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน มั่นใจโค้งสุดท้ายปีนี้ผลงานโตต่อเนื่อง

 

นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า การที่ Morgan Stanley Capital International (MSCI) ได้ประกาศผลการทบทวนดัชนีรายไตรมาส มีผลบังคับใช้ราคาปิดวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 โดยในส่วน MSCI Global Small Cap มีหลักทรัพย์ที่เข้าคำนวณรอบใหม่จำนวน 9 หลักทรัพย์ ซึ่ง TFG เป็น 1 ในหุ้นที่ได้เข้าคำนวณในครั้งนี้ ดังนั้นน่าจะทำให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน การที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ประกาศรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI)  ประจำปี 2563 และ TFG เป็น 1 ในหุ้น ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รายชื่อหุ้นยั่งยืน 124 บริษัท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจของบริษัทฯที่ให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ได้มองเฉพาะเรื่องของกำไรเพียงอย่างเดียว โดยให้ความสำคัญกับการคำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาล (ESG) ในกระบวนการดำเนินงานมากขึ้น

สำหรับรายชื่อหุ้นยั่งยืน 124 บริษัท เป็นบริษัทจดทะเบียนใน SET 114 บริษัท และ mai 10 บริษัท ประกอบด้วย บริษัทจดทะเบียนในกลุ่มทรัพยากรและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างมากที่สุด 21 บริษัท กลุ่มบริการ 20 บริษัท กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและกลุ่มเกษตร อุตสาหกรรมอาหาร 17 บริษัท และ 16 บริษัทตามลำดับ

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทที่ได้รับคัดเลือกมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 9.63 ล้านล้านบาท ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 หรือคิดเป็น 67% เมื่อเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดทั้งหมดของ SET และ mai ซึ่งเท่ากับ 14.39 ล้านล้านบาท

“การที่บริษัทได้รับคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนี MSCI และอยู่ในกลุ่มหุ้นยั่งยืน ส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่ออนาคตของบริษัท ซึ่งจะมีการเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง”นายวินัยกล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจนั้น ในช่วงไตรมาส 4/2563 ประเมินว่ายังอยู่ในทิศทางที่ดี เนื่องจากการที่ปริมาณสุกรในจีน และเวียดนามลดลง จากโรคระบาดอหิวาต์สุกร (ASF) ทำให้ราคาขายสุกรยืนได้ในระดับสูง รวมทั้งมีการหันมาบริโภคไก่มากขึ้น ประเมินว่าสถานการณ์แบบนี้น่าจะยังคงมีให้เห็นไปอีก 1-2 ปี ดังนั้นก็น่าจะทำให้ปริมาณการส่งออกเนื้อสัตว์เติบโตได้ต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดยุโรปและจีน ยังมีทิศทางทีดีเช่นกัน

อนึ่ง  ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2563 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,312 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 23,863 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 21,647 ล้านบาท

ส่วนงวดไตรมาส 3/2563 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,063 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 589 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 8,544 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนที่เท่ากับ 7,534 ล้านบาท

www.mitihoon.com