มิติหุ้น-น.ส. ดุษณี เกลียวปฏินนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์การออมและกลยุทธ์ลูกค้าบุคคลธนกิจ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า แผนงาน Wealth Management ปี 2564 ธนาคารจะเน้นยุทธศาสตร์ของการให้บริการเชิงลึก มุ่งเน้นดิจิทัล นำเสนอความหลากหลาย ตอบสนองความต้องการส่วนบุคคล และประยุกต์การใช้งานข้อมูลให้เต็มศักยภาพ เพื่อก้าวเป็น Bank of Choice โดยมีเป้าหมายขยายส่วนแบ่งตลาดจากการลงทุนของฐานลูกค้า Wealth ทั้งหมด
การให้บริการเชิงลึก Deepening relationships เป็นการต่อยอดจุดแข็งของการมีทีมเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนที่มีใบอนุญาตและความเชี่ยวชาญ รวมถึงทีมวิจัยที่เจาะลึกราย sector ให้คำปรึกษาแนะนำการลงทุนแบบเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ด้วยระบบ Smart/Robo Advisory เพียงลูกค้ามาที่ Wealth Center ของธนาคาร สามารถ Video Conference มาพูดคุยกับกูรูการลงทุนที่สำนักงานใหญ่แบบลงลึก และอนาคตอันใกล้ลูกค้าจะสามารถ Video Conference จากที่บ้านมาได้ ขณะเดียวกัน ได้สร้างกรุ๊ปไลน์แอด @cimbthaiwealth โดยทีมผู้เชี่ยวชาญคอยตอบคำถามและรับฟังเสียงจากลูกค้า จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-17.00 น. นอกจากช่องทางที่กว้างขึ้น ธนาคารจะพาลูกค้าลงทุนเชิงลึก ขยับไปลงทุนต่างประเทศ ผ่าน Bond Custodian เพื่อดูแลการลงทุนภายใต้โลกทัศน์การลงทุนที่เปลี่ยนไป
มุ่งเน้นดิจิทัล Digital focus เพิ่มความสะดวก ง่าย ลงทุนจากที่ใดก็ได้ จากการเปิดตัวบริการซื้อหุ้นกู้ผ่านแอปพลิเคชั่นหลัก CIMB THAI Digital Banking กลางปีที่ผ่านมา ลูกค้าตอบรับ ปรับตัวไว มียอดจองซื้อหุ้นกู้ผ่านแอปแตะ 1 พันล้านบาทในเวลาอันสั้น ปัจจุบัน ลูกค้าสามารถซื้อประกันทั้ง Life และ Non-life รับคำปรึกษาการลงทุนการอบรมผ่านแอปได้ด้วย ส่วนบริการใหม่ที่พัฒนาต่อเนื่องและพร้อมให้บริการปี 2564 คือระบบ Order Management System ลูกค้าสามารถซื้อกองทุนรวมได้ทั้ง 8 บลจ.ที่ธนาคารจับมือ ผ่านทุกช่องทางดิจิทัล ธนาคารยังมีแอป myPreferred ที่ลูกค้า CIMB Preferred เลือกรับสิทธิประโยชน์และของสมนาคุณได้ตามความชอบ และได้เพิ่มเครื่องมือช่วยจัดพอร์ต ทำให้บุคคลทั่วไปที่แม้ไม่ใช่ CIMB Preferred โหลดแอปมาเพื่อจัด asset allocation ได้ด้วย สุดท้าย คือ แอป myWealth ให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามและนำเสนอพอร์ตการลงทุนให้แก่ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
นำเสนอความหลากหลาย Strengthened offerings เป็นจุดแข็งที่พัฒนาไม่หยุดยั้ง เริ่มจากตราสารหนี้ที่ซับซ้อน การเปิดตัวยูนิเวอร์แซลไลฟ์, ยูนิตลิงค์, Open Architecture การจับมือพันธมิตรประกันรายใหม่ทั้งประกันชีวิต Life และประกันวินาศภัย Non-life และการพาลูกค้าขยับ ไปลงทุนต่างประเทศด้วยเครือข่ายแข็งแกร่งของกลุ่มซีไอเอ็มบี และการมี Bond Custodian พร้อมรับฝากดูแลพอร์ตหุ้นกู้ให้กับลูกค้า
ตอบสนองความต้องการส่วนบุคคล Revamp service model ธนาคารได้จัดกลุ่มลูกค้า Wealth ใหม่ เพื่อสนอบความต้องการและสื่อสารได้ตรงจุด โดยแบ่งเป็น ลูกค้า Preferred ที่มี AUM 3-29.99 ล้านบาท และลูกค้า Private Wealth ที่มี AUM ตั้งแต่ 30 ล้านบาท ด้วยสิทธิประโยชน์ที่ไม่แพ้ตลาด และการให้คะแนนที่ลูกค้าเลือกได้ว่าจะรับของสมนาคุณ หรือใช้จ่ายค่าธรรมเนียมได้ พร้อม ฟรีตู้นิรภัย และอัตราดอกเบี้ยพิเศษทั้งด้านเงินฝากและสินเชื่อ
สุดท้าย คือ ประยุกต์การใช้งานข้อมูล Being “Data Smart” เป็นระบบที่จะช่วยขยายโอกาสเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ข้ามกลุ่มได้ตรงยิ่งขึ้น
“การลงทุนมีความเสี่ยง แต่การไม่ลงทุนเสี่ยงกว่า จะลงทุนให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมาย ต้องจัด Asset Allocation ซึ่งเราอัปเดทให้ทุกไตรมาส และอัปเดททันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญ ด้วยโลกทัศน์การลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ใช่แค่แอปพลิเคชั่นที่สำคัญ บริการและความเชี่ยวชาญที่ใส่ผ่านแอปก็สำคัญ เราจึงให้บริการแบบเชิงลึก เพื่อเข้าถึงและเข้าใจฐานลูกค้า Wealth ที่ปัจจุบันมี 8.7 หมื่นราย เพื่อให้ลูกค้าที่อยู่กับ ซีไอเอ็มบี ไทย เพิ่ม wallet size มากขึ้น” น.ส.ดุษณี กล่าว
นายดนัย อรุณกิตติชัย ผู้บริหารที่ปรึกษาการลงทุน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า บทเรียนที่น่าสนใจปีนี้ ท่ามกลาง COVID-19 แต่สินทรัพย์หลายตัวให้ผลตอบแทนเป็นบวก สำหรับเศรษฐกิจปีหน้ามีแนวโน้มดีกว่าปีนี้ เพราะความกังวัลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจลดลงไปมาก จากปีนี้ GDP เกือบทุกประเทศติดลบ จะกลับมาบวกปีหน้า สำหรับกลยุทธ์การลงทุนปี 2564 หุ้นน่าจะทำได้ดี เพราะดอกเบี้ยต่ำ และรัฐบาลยังต้องกระตุ้นเศรษฐกิจอีกมาก ส่วนอุตสาหกรรมที่มีทิศทางสดใส ได้แก่ หุ้น หมวด cloud computing เพราะ platform online ต้องอาศัยงานหลังบ้าน และมีทางเลือกให้ลงทุนหลากหลาย ถัดมา คือ หมวด e-commerce ค้าขายออนไลน์ และสุดท้าย หมวด health tech เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับสุขภาพที่ล้ำหน้ามากขึ้น
สำหรับ Asset Allocation จากแนวโน้มดอกเบี้ยที่ยังต่ำต่อไปอีกอย่างน้อย 2 ปี หุ้นกู้เอกชนมีความน่าลงทุนมากกว่าพันธบัตรรัฐบาล จากโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้ที่จะลดลงค่อนข้างมาก นอกจากนี้ หุ้น 3 กลุ่ม ธนาคารชอบหุ้นกลุ่ม Regional ถัดมาคือ หุ้นกลุ่ม Global ส่วนหุ้นไทยต้องรอเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเต็มที่อีกครั้ง
อนึ่ง ธนาคารได้รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ รางวัล Wealth Management Platform of the Year ในประเทศไทย และรางวัลชนะเลิศ Consumer Finance Product of the Year ในประเทศไทย จากงาน The Asian Banking & Finance Retail Banking Awards ประจำปี 2563 โดยเป็นธนาคารแห่งแรกในไทยที่ให้ลูกค้าจองซื้อพันธบัตรผ่านแอปพลิเคชั่นมือถือ และกำลังจะนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายที่สุดในแอป อาทิ หุ้นกู้ตลาดรอง และ Structure Notes ในอนาคตอันใกล้ อีกทั้งยังให้คำปรึกษาด้านการลงทุน ผ่านช่องทางออนไลน์(Smart Advisory) และช่องทางโซเชียลช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย นอกจากนี้ ยังมีความได้เปรียบในการแข่งขันเพราะมีผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกลงทุน และสิทธิพิเศษระดับภูมิภาค ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของอาเซียน
www.mitihoon.com