ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี(PTG) โดย บทวิเคราะห์บล.เอเชีย เวลท์ ระุบว่า คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4/63 จะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จาก (1) ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/63 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งการท่องเที่ยวและธุรกิจขนส่ง โดยคาดว่าในไตรมาส 4/63 ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ และ (2) ค่าการตลาดคาดว่าจะยังอยู่ในระดับที่สูงราว 1.9-2.0 บาทจากการบริหารสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้กำไรสุทธิไตรมาส 4/63 โตต่อไปได้ธุรกิจน้ำมันปาล์มครบวงจร (Palm Complex) เข้าสู่ช่วง High Season ใน ไตรมาส 4/63 จากโครงการปาล์มน้ำมันครบวงจร คาดว่าในไตรมาส 4/63 บริษัทจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากปาล์มน้ำมันครบวงจรเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ ซึ่งเป็น High Season ของธุรกิจปาล์ม น้ำมัน โดยจะหนุนให้กำไรสูงขึ้น นอกจากนี ยังคาดว่าบริษัทจะขยายกำลังการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น 10-20% ในปี 2564 จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตไบโอดีเซล 450 ตันต่อวัน เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซลที่เพิ่มขึ้น
แนวโน้มปี 64 ขยายธุรกิจต่อเนื่อง
จึงคาดว่า ในปี 2564 บริษัทจะฟื้นตัวจากการคลายมาตรการความคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บริษัทคาดว่าจะลงทุนราว 5,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสถานีบริการ150-200 สาขา รวมทั้ง LPG และสถานีบริการน ้ามัน โดยจะลงทุนปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันเดิม และเปิดสถานีบริการเพิ่มในพื นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขณะที่
ธุรกิจ LPG ส้าหรับรถยนต์และภาคครัวเรือนยังสามารถขยายได้อย่างต่อเนื่องนอกจากนี ธุรกิจ Non-Oil อย่างธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยที่มีอัตราก้าไรขั นต้นสูงกว่าธุรกิจน้ำมัน บริษัทจะเน้นการสร้างแบรนด์เพื่อให้คนรู้จักมากขึ้นผ่านบัตรสมาชิก แม็ก การ์ด ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 เพิ่มขึ้น 12% จากประมาณการเดิมกำไรสุทธิ 9M63 คิดเป็น 74% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ของฝ่ายวิจัย พร้อมคาดว่าผลประกอบการ ไตรมาส 4/63 ดีขึ้น YoY และ QoQ ส่งผลให้เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ขึ้น 12% จากประมาณการเดิม เป็น 1,860 ล้านบาท เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าที่คาดไว้ โดยปรับอัตรากำไรขั้นต้นปี 2563 เป็น 10.20% (เดิม 8.60%)
คำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายที่ 22.40 บาท
เรายังคงคำแนะน้า “ซื้อ” คงราคาเป้าหมายในปี 2564 อยู่ที่ 22.40 บาท อิง PER ที่ 20 เท่า โดยรวมธุรกิจยังมีความน่าสนใจจากการเติบโตของปริมาณการจ้าหน่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ไตรมาส3/63 PTG มีส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับการจำหน่าย น้ำมันในทุกช่องทางเป็นอันดับ 2 จากอันดับที่ 3 ใน ไตรมาส3/62 และธุรกิจ Non-oil ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง คาดว่ากำไรจากธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่มจะพลิกกลับมาเป็นบวกในต้นปี 2564
www.mitihoon.com