หุ้นSAT: ปีหน้าฟื้นตัวแรง

349

ทางหลักทรัพย์กรุงศรีได้เริ่มต้นดูแลหุ้น SAT ด้วยคำแนะนำซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายต่อหุ้นที่ 17 บาท เป้าหมายของเราเทียบเท่า 11x FY21F PE หรือเท่ากับค่าเฉลี่ย multiple 5 ปี ซึ่งทางหลักทรัพย์กรุงศรีคาดยอดขายรถยนต์ของทั้งอุตสาหกรรมจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงปี FY21 – FY22 จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (OIE) การผลิตรถยนต์ในช่วง10M20 ลดลง 36%yoy สู่ระดับ 1,076,574 คัน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศ 10M20 ลดลง 36%yoy สู่ระดับ 538,495 คัน (-38%yoy สำหรับรถยนต์โดยสารและ -26%yoy สำหรับรถกระบะ), และปริมาณการส่งออกรถยนต์ลดลง 35%yoy สู่ 582,543 คัน (-35%yoy สำหรับรถยนต์โดยสารและ -35%yoy สำหรับรถกระบะ) เราคาดว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศปี FY20F จะลดลง 32% สู่ระดับ 6.4 แสนคันเนื่องจากกำลังซื้อภายในประเทศที่ต่ำลง แต่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ไตรมาสที่สามเป็นต้นไป รวมถึงในปี FY21F-FY22F ยอดขายรถยนต์ในประเทศจะยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องและคาดว่าจะอยู่ที่ราว 8.0 และ 9.0 แสนคันตามลำดับ

 

ในขณะที่ คาดว่าปริมาณส่งออกรถยนต์ใน FY20F จะลดลงราว 35% สู่ระดับ 7.4 แสนคัน เนื่องจากความต้องการที่ลดลงหลังจากการระบาดของ COVID-19 แต่คาดว่าปริมาณการส่งออกรถยนต์ในปี FY21F-FY22F จะฟื้นตัวมาอยู่ที่ระดับ 8.5 แสนคัน และ 10.0 แสนคัน ตามลำดับจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก อย่างไรก็ตามเราคาดว่ายอดขายรถยนต์รวมทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศในปี FY22 จะอยู่ที่ 1.90 ล้านคัน แต่ยังคงต่ำกว่ายอดขายรถยนต์ในปี FY20 ที่ 2.08 ล้านคัน

 

ทางหลักทรัพย์กรุงศรีมองว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์จะมีความเข้มข้นมากขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่มาเพื่อแข่งขันพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ เช่น ระบบอำนวยความสะดวกสำหรับคนขับ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้เชื้อเพลิง, เช่น Hybrid EV, Plug in Hybrid EV, และ BEV เราคาดว่า Hybrid EV จะเกิดขึ้นก่อนรถ PHEV / BEV เนื่องจากราคาที่จับต้องได้และสามารถใช้น้ำมันทดแทนได้ในช่วงที่ไม่มีสถานีชาร์จไฟฟ้า รัฐบาลตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า (EV car) เป็น 30% ของปริมาณการผลิตทั้งหมดที่ 2.5 ล้านคันต่อปีในอีก 10 ปีข้างหน้า เรามองความเสี่ยงจากรถ EV ยังคงต่ำ เนื่องจากผลิตภัณฑ์หลักของ SAT คือเพลา, จานเบรคและดุมเบรค, และชิ้นส่วนของเครื่องจักรการเกษตร ไม่ใช่เครื่องยนต์หรือระบบขับเคลื่อนรถยนต์ โดยเราคาดว่าบริษัทมีความเสี่ยงต่อ EV ที่ราว 1%-2%

 

สำหรับผลประกอบการ 4Q20F ของ SAT คาดมีแนวโน้มฟื้นตัว qoq โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่สูงขึ้นจากการเปิดดำเนินงานธุรกิจอีกครั้งหลังจากการปิดเมือง ยอดขายรถกระบะภายในประเทศเดือนต.ค.ฟื้นตัว 19%yoy เทียบกับ -3%yoy ใน 3Q20 ในขณะที่ยอดขายรถยนต์โดยสารภายในประเทศในต.ค. ฟื้นตัว 1%yoy เทียบกับ -33%yoy ใน 3Q20 สำหรับผลประกอบการปี 2021 เราคาดว่ากำไร FY21F จะฟื้นตัว 120% สู่ระดับ 660 ลบ. ได้รับแรงหนุนจาก (1) ความต้องการใช้รถยนต์ที่ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นหลังจากมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพซึ่งพร้อมใช้ได้ในปลายปีนี้ (2) รถรุ่นใหม่และโปรโมชั่นของผู้ผลิตรถยนต์และ (3) แรงจูงใจในการเปลี่ยนรถใหม่ของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อรถจากมาตรการรถคันแรก ที่เริ่มตั้งแต่ 16 กันยายน 2011 จนถึง 31 ธันวาคม 2012 โดยมีคำสั่งซื้อรถจำนวน 1.25 ล้านคันภายใต้มาตรการดังกล่าว นอกจากนี้บริษัทยังได้รับคำสั่งซื้อให้ส่งออกเพลา (axle shafts) ไปยังสหรัฐฯมูลค่ารวมกว่า 300ลบ. ต่อปี ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ 4%

 

Disclaimer:  เอกสาร/รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นบนพื้นฐานข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณชน ซึ่งพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม บมจ.หลักทรัพย์กรุงศรี มิอาจรับรองความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ บทความดังกล่าวเป็นเพียงแนวคิดของผู้จัดทำเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการลงทุน บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการต่างๆที่ปรากฏในเอกสาร/รายงานฉบับนี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าดังนั้นนักลงทุนโปรดใช้ดุลพินิจอย่างรอบคอบในการพิจารณาการลงทุน

www.mitihoon.com