มิติหุ้น-สวัสดีค่ะทุกท่าน ช่วงเวลาสิ้นปีที่หยุดยาวเช่นนี้หลายท่านมักจะใช้เวลาทบทวนการลงทุนที่ผ่านมาในรอบปีเพื่อวางแผนการลงทุนเพื่อลดภาษี หรือปรับสัดส่วนสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนของตนเองให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดหรือเป้าหมายการลงทุนที่อาจปรับเปลี่ยนไปตามช่วงอายุผู้ลงทุน ที่ท่านต้องเข้าไปดูข้อมูลการลงทุนของตนในระบบออนไลน์หรือตรวจดูจากเอกสารที่ได้รับจากผู้ให้บริการทีละราย (กรณีใช้บริการหลายราย) จึงจะสามารถนำมารวมคำนวณเพื่อให้เห็นพอร์ตการลงทุนของตนเองในภาพรวมได้ ซึ่งไม่ค่อยสะดวกและต้องใช้เวลาพอสมควรเลยทีเดียว วันนี้ผู้เขียนจึงจะขอนำทุกท่านเข้าสู่บทความภาคต่อเกี่ยวกับตลาดทุนดิจิทัลในยุค New Normal (ตอนจบ) ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้กันค่ะ
ในบทความตอนนี้ ผู้เขียนขอเล่าถึงแนวคิดเกี่ยวกับการทำ Account aggregation ซึ่งเป็นระบบช่วยรวบรวมข้อมูลของผู้ลงทุนที่มีบัญชีลงทุนอยู่กับผู้ให้บริการทุกราย แล้วประมวลผลเพื่อนำมาแสดงให้แก่ผู้ลงทุนรับทราบ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปเข้าดูในระบบหรือตรวจเอกสารของผู้ให้บริการแต่ละรายอีกต่อไป ผู้ลงทุนสามารถเลือกได้ว่าจะให้ระบบส่งข้อมูลมาที่อีเมลส่วนตัวหรือส่งไปยังผู้ให้บริการของตนเพื่อนำไปวิเคราะห์ข้อมูลภาพรวม (โดยได้รับความยินยอมจากผู้ลงทุน) และวางแผนทางการเงินได้อย่างเหมาะสม ซึ่งการช่วยทำ Account aggregation นี้จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ให้บริการอยู่บนระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลกลาง (digital infrastructure) ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปรับใช้ในกระบวนการตลาดทุนไทยทั้งหมดจากต้นทางจนถึงปลายทาง (End-to-end process) ดังที่ผู้เขียนได้เคยเล่าให้ฟังในบทความครั้งก่อน ตั้งแต่การช่วยให้เปิดบัญชีลงทุนได้สะดวกรวดเร็วผ่านระบบออนไลน์ด้วยการใช้งาน Single form และการทำความรู้จักลูกค้าแบบ anywhere anytime ผ่านระบบ e-KYC (คลิกอ่านบทความตลาดทุนดิจิทัลในยุค New Normal ตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2) มาจนถึงหลังจากได้มีการลงทุนแล้ว ผู้ลงทุนก็สามารถดูพอร์ตการลงทุนรวมทั้งหมดของตนเองได้แบบออนไลน์ ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างพัฒนาและจะเริ่มทดสอบใช้งานจริงบางส่วนแบบวงจำกัดในช่วงปี 2564 เป็นต้นไปค่ะ
สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการจะดูพอร์ตการลงทุนรวมของตนเองก็มีความสะดวกและไม่ยุ่งยากค่ะ เพียงแจ้งความประสงค์ผ่านระบบของผู้ให้บริการที่ท่านใช้งานอยู่ได้ทั้งบนเว็บไซต์ หรือ Mobile application ซึ่งคำขอนี้จะถูกส่งต่อไปยังผู้ให้บริการที่ผู้ลงทุนมีบัญชีทั้งหมดผ่านโครงข่ายของระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลกลาง (digital infrastructure) ซึ่งเชื่อมโยงผู้ให้บริการทุกรายไว้บนโครงข่ายเดียวกัน ซึ่งหากผู้ให้บริการรายใดที่มีข้อมูลของผู้ลงทุนที่ได้ส่งคำขอไว้ ระบบก็จะทำการรวบรวมข้อมูลจากผู้ให้บริการรายนั้นและจัดส่งให้ผู้ลงทุนได้ภายในเวลาอันรวดเร็วค่ะ
การพัฒนา Account aggregation ให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างสะดวก ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดทุนไทยที่เดิมข้อมูลผู้ลงทุนจะกระจัดกระจายไปตามฐานข้อมูลของผู้ให้บริการ ซึ่งต่อไปในอนาคตจะเชื่อมโยงกันเพื่อให้เกิดบูรณภาพในการทำงานและให้บริการผู้ลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับในแง่ของท่านผู้อ่านที่เป็นผู้ลงทุน เมื่อสามารถดูข้อมูลภาพรวมการลงทุนของตนเองได้อย่างสม่ำเสมอแล้ว ก็อย่าลืมนำไปกำหนดแผนการลงทุนให้เหมาะสมกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งจะช่วยสร้างผลตอบแทนได้ตามที่ท่านคาดหวังค่ะ สวัสดีค่ะ
www.mitihoon.com