DEMCO กางแผนปี 64 คว้างานใหญ่ของกฟน. ดัน Backlog พุ่งแตะ 3,400 ลบ.

103

DEMCO เปิดแผนปี 2564 ล่าสุดเซ็นสัญญางานใหม่ โครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินของ กฟน.มูลค่ารวม 246.75 ล้านบาท ดัน backlog พุ่งแตะ 3,400 ล้านบาท คาดสร้างรายได้ยาวถึงปี 2565 ฟาก”พงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์” เผยเดินหน้าขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่ม เตรียมความพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน รวมทั้งลุยติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปภาคเอกชน หนุนอนาคตเติบโตต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้น

นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เด็มโก้ หรือ DEMCO เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2563 โดยล่าสุดได้เซ็นสัญญาก่อสร้างกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน บริเวณโครงการส่วนต่อขยายตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ถนนรัตนาธิเบศร์ มูลค่างานรวม 726.29 ล้านบาท แบ่งเป็นงานในส่วนของ DEMCO มูลค่า 246.75 ล้านบาท RSS 2016 มูลค่า 236.91 ล้านบาท และยิบอินซอย เอ็นเนอร์ยี่ มูลค่า 246.61 ล้านบาท โดยระยะเวลาการก่อสร้าง 720 วันนับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งให้เข้าทำงาน

ทั้งนี้ การรับงานโครงการของกฟน.ในครั้งนี้ จะทำให้ในส่วนของธุรกิจรับเหมาฯ มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) เพิ่มขึ้นเป็น 3,400 ล้านบาท โดยจะสร้างรายได้ระยะยาวต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564-2565

ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้า อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมประมูลใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ในโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน รวมทั้งที่ผ่านมาบริษัทฯได้เข้าไปศึกษาพื้นที่การลงทุนกับวิสาหกิจชุมชนในเบื้องต้นแล้ว โดยโครงการดังกล่าวจะเข้ามาเสริมในธุรกิจโรงไฟฟ้า จากปัจจุบันบริษัท มีกำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังงานลม ตามสัดส่วนการลงทุนอยู่ที่ 58 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ตามสัดส่วนการลงทุนประมาณ 3 เมกะวัตต์ ดังนั้นจะเห็นว่า ธุรกิจโรงไฟฟ้ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวได้อย่างมั่นคง ตลอดจนสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

“ในปี 2564 ทิศทางการดำเนินธุรกิจน่าจะกลับมาดีขึ้น เนื่องจากมีงานในมือที่สร้างรายได้ และยังมีงานใหม่ที่จะเปิดให้ประมูลอีก โดยเฉพาะในส่วนของงานรับเหมาฯ ยังคงเน้นรับงานภาครัฐ ทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งมีงานที่จะเปิดให้ประมูลอีก มูลค่ากว่า 1-2 หมื่นล้านบาท รวมถึงยังมีงานประเภทที่เกี่ยวข้องกับการวางระบบไฟเบอร์ออฟติก และท่อก๊าซของบริษัทเอกชน ที่จะมีการลงทุนในปี 2564 อีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้กับภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้เข้ามาเสริมให้กับธุรกิจหลัก โดยปัจจุบันบริษัทฯได้ติดตั้งไปแล้ว 3 แห่ง และคาดว่าในปี 2564 น่าจะมีโอกาสได้รับงานดังกล่าวมากขึ้นอีกด้วย” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว