มิติหุ้น- โบรกชี้ตลาดหุ้นไทย Fund Flow ยังไหลเข้าไม่หยุด รีบหาจังหวะ “เข้าทยอยสะสม” หุ้นพื้นฐานแกร่ง ราคาถูก อัพไซด์สูงกว่า 20% โดยคัด 10 หุ้นเด่น นำโดย BTS- RATCH- CK- CPF- CBG- CPALL- BEM- ADVANC- OSP- CPN
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ โดย “นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา” ผู้อำนวยการ อาวุโสฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปี 63 เชื่อว่า fund filowยังมีทิศทางไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากการประเมินค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่อง
คัด10หุ้นเด่นเข้าพอร์ต
โดยปัจจุบันค่าเงินดอลลาร์ได้อ่อนค่าลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี ดังนั้นฝ่ายวิจัย แนะนำให้ใช้จังหวะที่นี้เข้า “ทยอยสะสม” โดยฝ่ายวิจัยได้ทำการ Screening หุ้นที่น่าสนใจจากฐานข้อมูลของ Bloomberg consensus โดยใช้เกณฑ์ 1.upside สูงกว่า 20% ,2. มีนักวิเคราะห์ทำการศึกษามากกว่า 10 ราย ,3.นักวิเคราะห์แนะนำ ซื้อ มากกว่า 80% และ 4.ราคาหุ้นปัจจุบันยังอยู่ต่ำ กว่าราคาเป้าหมายต่ำสุดที่นักวิเคราะห์ให้ไว้ (downside risk จำกัด)
ดัก‘BTS-RATCH- CPF’
ดังนั้นฝ่ายวิจัยได้หุ้นที่น่าสนใจประกอบด้วย BTS มี upside 36% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยของ Bloomberg consensus ที่ 12.79 บาท , RATCH มี upside 35% จากราคาเป้าหมายที่ 72.88 บาท, CK มี upside 34% จากราคาเป้าหมายที่ 22.59 บาท, CPF มี upside 33% จากราคาเป้าหมายที่ 37.97 บาท
อีกทั้ง CBG มี upside 31% จากราคาเป้าหมายที่ 148.46 บาท, CPALL มี upside 30% จากราคาเป้าหมายที่ 75.19 บาท, BEM มี upside 28% จากราคาเป้าหมายที่ 10.60 บาท, ADVANC มี upside 24% จากราคาเป้าหมายที่ 223 บาท, OSP มี upside 24% จากราคาเป้าหมายที่ 43.59 บาท และ CPN มี upside 23% จากราคาเป้าหมายที่ 59.70 บาท
“นายเดชธนา ฟางสะอาด” ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์รายย่อย บล.คันทรี่ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น BTS เริ่มมี “แรงซื้อกลับ” หาก BTS สามารถวิ่งทดสอบแนวต้านได้ที่ 10.50-10.80 บาท เป็นการยืนยันว่าหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นรอบใหม่ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 9.40-9.00 บาท ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ”
พื้นฐานฟื้นตัวแกร่ง
ก่อนหน้านี้ “นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์” ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน BTS เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปี 63/64 (1 เม.ย.63-31 มี.ค.64) จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะแต่ละธุรกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนแนวโน้มผลงานไตรมาส 3/63-64 (ต.ค.-ธ.ค.63) จะดีกว่างวดไตรมาส 2/63-64 (ก.ค.-ก.ย.63) เนื่องจากแต่ละกลุ่มธุรกิจเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจระบบขนส่งมวลชน คาดว่าผลการดำเนินงานจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน หลังจากจำนวนผู้โดยสารในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
www.mitihoon.com
