หากจะเอ่ยชื่อหุ้นที่เป็นกระแสฮอตๆแห่งปี 63 แรลรี่จากราคาไม่ถึงร้อยบาท โดยหากย้อนหลังไป 1 ปี (8 ม.ค.63) ราคาอยู่ที่ 49.25 บ./หุ้น ส่วนราคาปิดล่าสุด( 8 ม.ค. 64) ปิดที่ 718 บาท บวกถึง 1,357 % พีอีพุ่งไปแตะที่ 151.72 เท่า จากระดับ 20 เท่า เมื่อช่วงต้นปี63 ถือเป็นหุ้นปรับตัวขึ้นแรงที่สุดก็ว่าได้ จนดันมาร์เก็ตแคปจากระดับ 6.1 หมื่นล้านบาท หลุด SET 100 เมื่อช่วงกล่างปีที่ผ่านมา ระยะเวลาผ่านไปเพียง 6 เดือนกลับเข้ามาใหม่ แต่รอบนี้ไม่ธรรมดาติด SET 50 เฉยเลยไม่เอาแค่ SET100 ขึ้นแท่นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคป TOP 3 ที่ระดับ 8.95 แสนลบ.และที่สำคัญดัน PE ของ SET วิ่งไปแตะ 30 เท่า นั่นก็คือ “บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)” หรือตัวย่อว่า DELTA นั่นเอง
DELTA ทำธุรกิจอะไรกันแน่?
DELTA เป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์เพาเวอร์ซัพพลายและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ โดยเป็นผู้ผลิตชั้นนำของโลกด้านผลิตภัณฑ์เพาเวอร์ซัพพลาย และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประเภท พัดลมอิเล็กทรอนิกส์ (DC Fan) อีเอ็มไอ ฟิลเตอร์ (EMI Filter) และโซลินอยด์ โดยได้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ด้านการจัดการระบบกำลังไฟฟ้า (Power Management Solutions) ซึ่งครอบคลุมผลิตภัณฑ์ต่างๆ หลายประเภท ได้แก่ ระบบกำลังไฟ (Power Systems) ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบโทรคมนาคม อุปกรณ์ในภาคอุตสาหกรรม อุปกรณ์สำนักงาน อุปกรณ์การแพทย์ รวมทั้งเพาเวอร์ซัพพลายเพื่อการใช้งานกับเซิร์ฟเวอร์ คอมพิวเตอร์ระบบเครือข่าย (Networking) เครื่องปรับระดับแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง (DC-DC Converter) และอแดปเตอร์
ปัจจุบันได้ขยายการดำเนินงานไปยังธุรกิจพลังงานทดแทนได้แก่ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และอุปกรณ์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และยานยนต์ไฮบริด (HEV)
ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการขยับตัวของDELTA ที่ขยายธุรกิจไปด้านพลังงานทดแทนและผลิตอุปกรณ์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า(EV) และยานยนต์ไฮบริด(HEV) จึงส่งผลต่อผลการดำเนินงานงวดล่าสุดไตรมาส3/63 เมื่อบริษัทแจ้งกำไรสุทธิดีดกลับไปแรงมากที่ 2,643 ลบ. เติบโต 327 % เมื่อเทียบกับปีช่วงเดียวกันของปี 62 และงวด 9 เดือนก็ทำกำไรทะลุ 5,000 ลบ.ที่ระดับ 5.52 พันลบ. (สูงกว่ากำไรทั้งปีในปีที่ดีที่สุดในช่วง 3 ปีย้อนหลัง โดยปี 61 กำไรสุทธิ 5.1 พันลบ.) ปีนี้ก็ลุ้นกำไรทุบสถิติ
ส่วนรายได้จากยอดขายงวดไตรมาส3ก็พุ่งกระจายอยู่ที่ 1.75 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 41.4 % เนื่องจากความต้องการในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูล cloud (cloud storage) และศูนย์ข้อมูล (data center)อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์โซลูชั่น สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน (CIS)และเพาเวอร์ซัพพลายสำหรับคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายอีกทั้งการเติบโตอย่างโดดเด่นของโซลูชั่น รถยนต์ไฟฟ้าในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งสะท้อนไปที่ราคาหุ้นค่อยปรับตัวขึ้นทำระดับ All time high ต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค.63 เมื่อผลงานค่อยๆดีขึ้น จนราคาหุ้นขึ้นไปแตะที่ระดับ 200 บาท ในเดือนต.ค.63 ก่อนที่งบจะประกาศ 12 วัน (งบQ3ประกาศ 26 ต.ค.63)
โบรกส่องผลงานแกร่งดีเกินคาด
หลังจากกำไรงวดQ3/63 ประกาศออกมาซึ่งถือว่าดีกว่าที่โบรกประเมินไว้ แม้ตัดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนก็ซึ่งผันผวนและเป็นตัวกวนใจธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เนื่องจากผลิตเพื่อส่งออกเป็นส่วนใหญ่ก็ตามที ดังนั้นปี 63 ถือเป็นปีทองของธุรกิจนี้ โดย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า อัตรากำไรขั้นต้นของ DELTA อยู่ที่ 26.1% (-78 bps QoQ, +695 bps YoY) หนุนจากค่าเงินบาท/USD เฉลี่ยที่ 31.55 (+2.2% YoY) และสัดส่วนยอดขายจาก Cloud และ Data Center (ซึ่งทำกำไรสูง) เพิ่มขึ้น พร้อมประเมินกำไรสุทธิปี 63 อยู่ที่ 7.1 พันล้านบาท (+134 % YoY) ขณะที่ไตรมาส 4/63 คาดกำไรปกติจะชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนแต่ยังอยู่ในระดับสูงที่ระดับ 2 พัน ลบ. ทำให้ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปกติทั้งปี 63 พร้อมคงคาดการณ์กำไรปกติปี 64 ที่ 8.2 พันล้านบาท (+15.6% YoY) หนุนจากการเติบโต ของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ EV Car แต่การเติบโตจะลดความร้อนแรงลงจากฐานที่สูงในปี 63 จึงประเมินราคาเป้าหมายปี 64 ที่ 197 บ./หุ้น
แต่ต้องยอมรับการปรับขึ้นของหุ้น DELTA ก็ทำให้ ตลาดหลักทรัพย์ได้หน้าอยู่ไม่น้อย เพราะนอกจากจะไม่พบการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่ผิดปกติแล้ว ยังทำให้ระดับมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของดัชนีหุ้นไทยปี 63 แตะระดับ แสนล้านบาทได้ถึง 22 วัน ซึ่งเป็นความหวังลึกๆของผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯคนปัจจุบันที่ภาคภูมิใจอยู่ไม่น้อยทีเดียว แม้ว่าล่าสุด DELTA ที่ยังฮอตข้ามปีก็ถูก ให้ซื้อขายด้วยบัญชีเงินสด(Cash balance) 3 สัปดาห์(6-26 ม.ค.64)เท่านั้น
เตือนใครถือหุ้นที่ 838 บ.หนาวมั้ย
เพราะราคาหุ้น DELTA เมื่อขยับตัวร้อนแรงช่วงต้นๆเดือน ธ.ค.63 ราคาเริ่มไต่ระดับนิวไฮรายวัน เกินระดับ 200 บาท วิ่งฉิวจนทำระดับราคาสูงสุดระหว่างวัน(28ธ.ค.63)ที่ 838 บ./หุ้น ซึ่งในระหว่างนี้นักข่าว นักวิเคราะห์ต่างก็พยายามหาเหตุผลว่าราคาหุ้นทำไมร้อนแรงขนาดนี้ ซึ่งไม่รู้ว่า เพียงแค่การกลับเข้าไปคำนวณใน SET 50 ช่วงต้นปี 64 ซึ่งรอบนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เนื่องจากเข้าในระดับมาร์เก็ตแคป TOP 3 ทำเอา “ฟันด์เมเนเจอร์” ประเภทกองทุน Passive จะต้องจำยอมถือหุ้น DELTA เข้าพอร์ตแม้ว่าราคาแพงหูฉี่ ตามนโยบายกองทุนไม่รู้กองไหนจึงไม่รู้ว่างานนี้นักลงทุนสถาบันหรือรายย่อยที่เป็นผู้เข้าเก็บหุ้น DELTA ที่ราคา 838 บาทกันแน่ และได้สิทธิ์ไปทัวร์ดอยตามระเบียบ…งานนี้ก็ไม่รู้ว่าจะได้ลงดอยเมื่อไหร่? หรือนี้จะเป็นกับดักของนักลงทุนสถาบันที่ผู้เล่นมองเห็นและอาศัยช่องว่างดังกล่าว ประกอบกับ DELTA ยังเป็นหุ้นที่มี Free float ต่ำๆ ด้วยเข้าทางเลยไม่รู้ว่าจะภาคภูมิใจตามที่ ตลท.คุยโวเอาไว้หรือไม่ดีนะ “ปีที่ผ่านมามี 22 วัน มาร์เก็ตแคปรายวันแตะละดับ แสนลบ.”
DELTA ซุ่มโปรเจ็กต์ยักษ์พอมั้ย?
ส่วนอานิสงส์ของการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ EV Car ของ DELTA ที่กำลังเป็นธุรกิจในอนาคตและมาแรงอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบออนบอร์ด (OBC) ขนาด 7.2kW เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมตั้งแต่ปี 61 เป็นต้นมา และในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ให้มีกำลังสูงขึ้น เช่น 11 kW และ 22 kW ซึ่งในปี 63 นี้ บริษัทฯ จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับอุปกรณ์แปลงไฟแบบ DCDC และกล่องพักสายแรงดันสูง (high voltage connection boxes) จะเป็นอีกกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ออกสู่ตลาดในปี 64 ก็คงต้องจับตาดูกันต่อไป
www.mitihoon.com