LH ฉายแววกำไรทะยานนิวไฮ กูรูปรับเป้า-ฟันธงราคาน่าสน

1477

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ หรือ LH ว่า ฝ่ายวิจัยยังชื่นชอบธุรกิจในระยะยาวของ LH ที่มีความระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจ สำหรับการเปิดขายโครงการใหม่ปีนี้ลดลง 28% จากปีก่อน เป็น 20.7 พันล้านบาท ทั้งหมด 12 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 10 โครงการ คอนโด 2 โครงการ แต่ราคาขายเฉลี่ยลดลงเป็น 6 ล้านบาท จากเดิม 8 ล้านบาท โดยไตรมาส3/64 จะเปิดขายมากที่สุด หลังจากในภาพรวมปี 63 บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ
ได้มีการปรับเพิ่มประมาณการปี 63 ในอัตรา 10% สะท้อนกำไรส่วนเพิ่มจากการขายสินทรัพย์ที่อเมริกาคือ The Mode Residence ที่มีกำไรก่อนภาษีที่ 416 ล้านบาท แต่ปีนี้กลับปรับประมารการลงในอัตรา 3% สะท้อนรายได้ที่ลดลงในอัตรา 1.6% เป็น 31.1 พันล้านบาท และกำไรตามส่วนได้เสียที่ลดลง 1.6% เป็น 3.1 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปรับลงในส่วนของ LHFG ตามการอ่อนลงของผลกระทบโควิด-19 ที่กลับมาระบาดในช่วงต้นปี 64

กำไรไตรมาส4/63 สูงสุดในรอบปี
ทั้งนี้คาดว่ากำไรไตรมาส4/63 ที่ใกล้จะประกาศจะเป็นไตรมาสที่มีกำไรสูงสุดในรอบปี 63 ส่วนประมาณการตลอดปี 2564 นี้ กำไรหลักสามารถเพิ่มขึ้นได้ 15% y-o-y ถือว่าฟื้นตัวหลังจากตลอดปี 63 ลดลง 17% y-o-y ซึ่งเกิดขึ้นจากการได้รับผลลบจากโควิด-19 ยังผลให้รายได้ค่าเช่าและบริการ รวมทั้งกำไรตามส่วนได้เสียจากบริษัทร่วมปรับลดลง (บริษัทร่วมที่สำคัญ เช่น HMPRO, QH และ LHFG)

ปรับราคาพื้นฐานเป็น9.10บาท
คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐานใหม่ที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 9.10 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี SOP สำหรับการประเมินมูลค่าที่อยู่อาศัยได้เพิ่ม Forward P/E เป็น 8 เท่า จากเดิม 7 เท่า เพื่อสะท้อนการฟื้นตัวของธุรกิจ ถือว่าราคาหุ้นปัจจุบันน่าสนใจ เพราะซื้อขายด้วย P/E ปี 64 ที่เป็น -1 SD จากค่าเฉลี่ย ด้านอัตราผลตอบแทนปันผลอยู่ในเกณฑ์ดี คาดว่าปี 64 เป็น 7% ข้อดีคือ การที่บริษัทมีพอร์ตสินค้าส่วนหนึ่งเป็นแนวราบที่ระดับราคาสูง จะได้รับผลลบจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอและมีกำลังซื้อต่ำ