มิติหุ้น – CENTEL ลุยเทกโอเวอร์โรงแรมทั้งในและต่างประเทศ พร้อมขยายการลงทุนใหม่ หวังเปิดให้บริการ 11,111 ห้องในปี 2563 ขณะธุรกิจร้านอาหารเล็งขยาย 65 สาขาในปีนี้ หนุนโต 7-8% ตามทิศทางเศรษฐกิจ- ท่องเที่ยวดีขึ้น กางแผนรุก 5 ปี ดันรายได้เติบโตเท่าตัว
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา หรือ CENTEL โดยนายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินและบริหาร เปิดเผยว่า ในปี 2561 มีแผนซื้อกิจการธุรกิจโรงแรมทั้งในไทยและต่างประเทศเพิ่ม
โดยภายในประเทศ อยู่ระหว่างการพิจารณาซื้อกิจการโรงแรมในพื้นที่ 55 เมืองรอง ซึ่งมีข้อเสนอเข้ามาหลายแห่งเช่นกัน ขณะที่ต่างประเทศ สนใจขยายลงทุนในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิค และตะวันออกกลาง คาดได้ข้อสรุปในปีนี้อย่างน้อย1 แห่ง ซึ่งบริษัทมีศักยภาพในการกู้เงินมาลงทุน เนื่องจากมีหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ระดับ 0.6 เท่า
ท่องเที่ยวบูม หนุนโตแกร่ง
ขณะที่ทิศทางการเติบโตในปีนี้ CENTEL ตั้งเป้ามีรายได้จากธุรกิจโรงแรมต่อจำนวนห้องที่ขายเติบโต 4% ตามทิศทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นกว่าปีก่อน ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นราว 38 ล้านคน จากปีก่อนอยู่ในระดับ 35 ล้านคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน และรัสเซียที่เติบโตเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้เต็มปีของโรงแรม COSI สมุย จำนวน 151 ห้อง และรับรู้รายได้เต็มปีจากโรงแรมและศูนย์ประชุมที่ศูนย์ราชการ หลังจากที่ได้ซื้อสิทธิ์ในการบริหารเรียบร้อยแล้ว
เพิ่มห้องพักเป็น 11,111 ห้อง
ทั้งนี้ เพื่อการเติบโตต่อเนื่อง บริษัทมีเป้าหมายขยายห้องพักเพิ่มอีก 16 แห่ง จากปัจจุบันมีโรงแรมอยู่ 38 แห่ง ซึ่งจะส่งผลให้มีจำนวนห้องเป็น 11,111 ห้องภายในปี 2563 จากปัจจุบันมีห้องพักให้บริการรวม 7,231 ห้อง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างโรงแรม COSI อ.พัทยา จ.ชลบุรี 1 แห่ง คาดเปิดบริการปี 2562 และดูไบ 1 แห่ง และเมาดีฟส์ 2 แห่ง
ส่วนธุรกิจร้านอาหารคาดว่ายอดขายสาขาเดิมจะเติบโต 2-3% และรายได้รวมของธุรกิจร้านอาหารเติบโต 7-8% ซึ่งจะมีแผนขยายตลาดไปยัง mass market มากขึ้น โดยปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีก 65 สาขา จะส่งให้ปีนี้มีร้านอาหารเพิ่มเป็น 954 สาขา จากปัจจุบันอยู่ที่ 889 สาขา
แผน 5 ปี รายได้โตเท่าตัว
อย่างไรก็ตาม ใน 5 ปี (2561-2565) CENTEL ตั้งเป้ารายได้เติบโตแบบเท่าตัวเมื่อเทียบปี 2560 ที่มีรายได้รวม 20,345 ล้านบาท ภายใต้ 3 กลยุทธ์ คือ 1.การเพิ่มมูลค่าของทรัพย์สินที่มีอยู่ โดยการลงทุนปรับปรุงโรงแรมเก่าให้มีมูลค่าเพิ่มจากการบริการห้องพัก เพิ่มความสะดวกสบายในการบริการ 2.ขยายแบรนด์ให้มากขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ 6 แบรนด์ 3.ลดต้นทุนเพื่อให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่าย
ขณะที่งบลงทุนปีนี้เตรียมไว้ 2,300 ล้านบาท ไม่รวมซื้อกิจการ โดยแบ่งเป็นลงทุนในธุรกิจโรงแรม 1,200 ล้านบาทธุรกิจร้านอาหาร 1,100 ล้านบาท
