ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.จี เอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.เอเชียน อินซูเลเตอร์ หรือ AI ว่า ฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 มาที่ระดับ 727 ล้านบาท +146% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) (เดิม 696 ลบ.) เพิ่มขึ้น 4% ผลจากราคาน้ำมันปาล์มดิบที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ โดยมองว่าราคาน้ำมันปาล์มได้รับแรงหนุนจากราคาพืชที่ให้น้ำมัน เช่น ถั่วเหลือง ดอกทานตะวัน ปรับเพิ่มขึ้นเด่นในช่วงไตรมาส4/63 (ในมุมมองของสินค้าทดแทน) รวมถึงได้อานิสงส์จากภาวะสภาพอากาศแห้งแล้งที่คาดว่าจะรุนแรงในปีนี้ ซึ่งจะกดดันฝั่งอุปทานของกลุ่มพืชน้ำมัน
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่า AI จะรายงานกำไรสุทธิงวดไตรมาส4/63 ที่ 274 ล้านบาท +63% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และ +85% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ซึ่งการเติบโตที่โดดเด่นหลักๆ มาจากธุรกิจไบโอดีเซล ที่ได้ปัจจัยหนุนจากการขยายกำลังผลิตเพิ่มขึ้นราว 16% (QoQ) ในช่วงเดือน พ.ย. และกำไรจากสต๊อคน้ำมันปาล์มดิบซึ่งเพิ่มขึ้นเด่น เป็นผลจากราคาน้ำมันปาล์มดิบ+53% เมื่อเทียบช่วงปลายไตรมาส4/63 ส่วนธุรกิจลูกถ้วยไฟฟ้าและธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ประเมินว่าผลประกอบการจะอ่อนตัวลงเล็กน้อย (QoQ) จากที่คาดว่ากำไรสุทธิจะถูกกระทบจากอัตราภาษีที่สูงขึ้น หลังจากหมดสิทธิประโยชน์ทางภาษีในธุรกิจลูกถ้วยไฟฟ้าในช่วงกลางปี
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเหมาะสมปี 21 ที่ 2.88 บาท อิง PER 14.2X ยังมี Upside จากราคาปัจจุบัน 28.6% และชื่นชอบต่ออัตราผลตอบแทนเงินปันผลในระดับสูง 6.7% มุมมองต่อผลการดำเนินงานปี 2564 ด้วยราคาน้ำมันปาล์มที่ทรงตัวในระดับสูงในช่วงเดือน ม.ค. ฝ่ายวิจัยมองเป็น Upside Risk ต่อประมาณการปี 64 จากที่บริษัทจะมีต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบที่ต่ำในสต๊อคที่มาจากปี 20 ด้านธุรกิจลูกถ้วยไฟฟ้าและรับเหมาก่อสร้าง เบื้องต้นคาดว่าปี 64 จะยังไม่โดดเด่นซึ่งเป็นผลกระทบจากระบาดของโควิดภายในประเทศ ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อการลงทุนของภาครัฐ