ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.สยามเวลเนสกรุ๊ป หรือ SPA ว่า ฝ่ายวิจัยได้ปรับลดประมาณการปี 2564 เป็นขาดทุนปกติที่ 46 ล้านบาท จากประมานการเดิมกำไรปกติที่ 44 ล้านบาท หลักๆ จากการปรับลดสมมติฐานรายได้ลงราว 9% เทียบกับประมาณการเดิม มาจากผลกระทบของโควิด-19 ระบาดรอบสองในช่วงไตรมาส1/64 ส่งผลให้ SPA ประกาศปิดสาขาชั่วคราวราว 22 สาขาในช่วงต้นปี 2564 ก่อนกลับมาเปิดอีกครั้งในช่วงปลาย ม.ค. ราว 18 สาขา และส่งผลให้แนวโน้มการเปิดประเทศชะลอไปในช่วงครึ่งปีหลังปี64
อย่างไรก็ดี งบดุลที่แข็งแกร่งของ SPA ทำให้บริษัทสามารถผ่านวิกฤตไปได้ไม่ยาก ขณะที่การกระจายวัคซีนที่รวดเร็วในช่วงครึ่ปีแรกของปี64 เป็นปัจจัยสำคัญที่ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักมากกว่า หากทำได้ต่อเนื่องในไตรมาส2-ไตรมาส3 ปี64 และการเปิดประเทศบางส่วนน่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 3/64 และอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส4/64 หนุนให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทยอยฟื้นตัว เช่นเดียวกับแนวโน้มกำไรของ SPA
โดยฝ่ายวิจัยคงมุมมองภาครัฐจะเริ่มเปิดประเทศอย่างเฉพาะเจาะจงโดยเลือกไปที่ประเทศที่คุม COVID-19 ได้ดี และมีผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยสูง เช่น นักท่องเที่ยวจีน เป็นต้น ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของ SPA ทำให้ SPA ยังเป็นตัวเลือกที่เด่นสำหรับการเปิดประเทศ ฝ่ายวิจัยคงประมานการปี 2565-2566 ที่139 ล้านบาทและ 228 ล้านบาท ตามลำดับ
คงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2564 ที่ 10.20 บาทต่อหุ้น
ฝ่ายวิจัย คงราคาเหมาะสม SPA ที่ 10.20 บาทต่อหุ้น อิงกำไรปกติปี 2566 ที่ 228 ล้านบาท และ PER ที่ 48x ซึ่งนอกจากการเป็นตัวเล่นเปิดประเทศที่โดดเด่นในช่วงครึ่งปีหลังปี64 แล้ว SPA มีโอกาสได้ธุรกิจต่อยอดที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเสรีกัญชา ตัวอย่างในต่างประเทศ เช่น การขายสินค้าจำพวกน้ำมัน โลชั่น เป็นต้น หรือการนำคุณสมบัติของ CBD มาให้บริการนวดเพื่อผ่อนคลาย หากเกิดขึ้นได้จริงจะเป็น Upside Risk สำคัญที่ไม่ได้รวมไว้ในประมาณการที่ต้องติดตาม