KTAM เปิดขายกองทุนทริกเกอร์ KT-TMT3 เป้าหมาย 7% ภายใน 7 เดือน

430
KTAM เปิดขายกองทุนทริกเกอร์ KT-TMT3 เป้าหมาย 7% ภายใน 7 เดือน
(มูลค่าหน่วยลงทุนเป้าหมายไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนจากการลงทุน และผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา เดือนได้ ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก) 
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า KTAM จะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเคแทม ธีมเมติก ทริกเกอร์ ฟันด์3 (KT-TMT3) ระหว่างวันที่ 9-16 กุมภาพันธ์ 2564 นี้ เป้าหมายสร้างผลตอบแทนอยู่ที่ 7% ภายใน เดือน โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ อาทิ หน่วย CIS และ/ หรือ กองทุนรวมอีทีเอฟ และ/หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และ/หรืทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (กองทุนปลายทาง) ตั้งแต่ กองทุนขึ้นไป
โดยการลงทุนในกองทุนปลายทางดังกล่าวมีนโยบายลงทุนทั้งในตราสารแห่งทุน ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ทรัพย์สินทางเลือก และ/หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นใดตามที่กฎหมาย ก.ล.ต. กำหนด และกองทุนนี้จะพิจารณาปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตั้งแต่ร้อยละ ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ซึ่งสัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน และกองทุนจะมีการลงทุนที่ส่งผลให้มี Net Exposure ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน และหรือการบริหรความเสี่ยงรวมทั้งกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน 

ทั้งนี้ นางชวินดา ยังกล่าวเสริมว่า กองทุนนี้มุ่งเน้นการลงทุนในหุ้น A-shares (หุ้นที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้น) ที่มีสภาพคล่องสูง ทำให้มีโอกาสดีที่จะสร้างผลตอบแทนชนะดัชนี (Alpha) ผ่านการลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุน Allianz China A-Shares, iShares FTSE A50 China ETF และ ChinaAMC CSI 300 Index ETF ซึ่งมีทั้งกลยุทธ์แบบ bottom up / stock picking และผลตอบแทนตามดัชนีอ้างอิง โดยได้อานิสงค์จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นของประเทศจีน ในระดับราคาที่สมเหตุสมผล

อีกทั้งหุ้นจีน A-shares ที่มีสัดส่วนสูงขึ้นเรื่อยๆ ในดัชนีระดับโลก รวมถึงนโยบายที่เริ่มเปิดกว้างสู่นักลงทุนต่างประเทศที่ช่วยดึงดูดการลงทุนของนักลงทุนสถาบัน อีกทั้งประเทศจีนยังผ่านกระบวนการปฏิรูปและปรับตัวท่ามกลางวิกฤต อาทิ เศรษฐกิจชะลอตัวรุนแรง (hard landing) สงครามการค้า และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายครั้งในช่วงปีหลังๆ  และการที่รัฐบาลจีนพยายามลดความร้อนแรงของตลาดหุ้น ตลอดจนความขัดแย้งระหว่าง จีน-สหรัฐ จึงมองว่านี่เป็นโอกาสทยอยซื้อสะสมสำหรับผู้ที่คาดหวังผลตอบแทนในการลงทุนระยะสั้นจากการจับจังหวะตลาด (Market Timing)  

กองทุนเปิดเคแทม ธีมเมติก ทริกเกอร์ ฟันด์3 (KT-TMT3) ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบกำหนดธีมการลงทุน Thematic Investment โดยผู้จัดการกองทุนจะวิเคราะห์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก หรือ Mega Trends เพื่อค้นหากลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จาก Mega Trends มีการบริหารแบบยืดหยุ่น และกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงโดยใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบกำหนดธีมการลงทุนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เริ่มต้นด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ktam.co.th หรือขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 ในเวลาทำการ และผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (ถ้ามี 

เงื่อนไขการเลิกกองทุน : บริษัทจัดการจะดำเนินการเลิกกองทุนภายใน 5 วันทำการ เมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่ง ตามที่บริษัทจัดการเห็นสมควร ดังต่อไปนี้ (1) เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.7222 บาท เป็นเวลา 2 วันทำการติดต่อกันขึ้นไป และทรัพย์สินของกองทุนที่จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติจะต้องเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด หรือเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.7222 บาท และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด ณ วันทำการใด หรือ  (2) กรณี ณ วันทำการใดก็ตามที่ทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดบางส่วน หรือทั้งหมด และสามารถรับซื้อคืนได้ไม่ต่ำกว่าอัตราที่บริษัทจัดการกำหนด ทั้งนี้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งตาม (1) หรือ (2) แล้วแต่กรณี บริษัทจัดการจะพิจารณารับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมดภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ มูลค่าหน่วยลงทุนที่คืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 107 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ไม่เกิดเหตุการณ์ที่มูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นจนเป็นเหตุให้เลิกกองทุนภายใน เดือนนับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม บริษัทจัดการจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถทำการขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการซื้อขายที่บริษัทจัดการกำหนด และหาก ณ วันใดก็ตามที่กองทุนเข้าเงื่อนไขการเลิกกองทุนตามเงื่อนไขที่บริษัทจัดการกำหนด บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการเลิกกองทุนตามเหตุการณ์ดังกล่าว