ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เคทีบีเอสที (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ประกาศขายหุ้นบริษัทกรุงไทยลีสซิ่ง (KTB leasing) ให้กับ บมจ.บัตรกรุงไทย หรือ KTC โดยแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่ามีการขายหุ้นของบริษัทกรุงไทยลีสซิ่ง (KTB leasing) สัดส่วน 75.05% หรือคิดเป็น 75.05 ล้านหุ้น ให้กับ KTC โดยราคาซื้อขายอยู่ที่ 7.92-13.15 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่า 594-987 ล้านบาท (ที่มา: SET)
สำหรับ KTB ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลางต่อการขายดังกล่าวเพราะธุรกิจลีสซิ่งไม่ใช่ธุรกิจหลักของ KTB อยู่แล้ว และมองว่าการขายครั้งนี้ให้กับ KTC น่าจะทำให้เกิด Synergy ที่ดีกว่าเดิม ขณะที่ราคาขายที่ 7.92-13.15 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเพียง PBV 0.63-1.04x ซึ่งถือว่าถูกเมื่อเทียบกับ KKP และ TISCO ที่ราคาปัจจุบันเทรดที่ PBV 1.14x และ 1.99x ตามลำดับ ทั้งนี้สินเชื่อของ KTB leasing ปี 2563 อยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท คิดเป็นเพียง 0.1% ของสินเชื่อรวมของ KTB และมีกำไรสุทธิในปี 2563 เพียง 176 ล้านบาท คิดเป็นเพียง 1% ของกำไรสุทธิของ KTB ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยประเมินว่าดีลนี้ไม่มีนัยสำคัญต่อประมาณการกำไรสุทธิ จึงคงคำแนะนำ “ถือ” KTB ราคาเป้าหมายที่ 12.00 บาท อิง 2564 PBV ที่ 0.5x
ในส่วนของ KTC ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวก โดยมีประเด็นสำคัญ คือ 1. ประเมินว่า KTC มีความสามารถในการซื้อหุ้นข้างต้น และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกู้ยืมเงิน เนื่องจาก ณ สิ้นปี 2563 KTC มีเงินสดใน 1.9 พันล้านบาท ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่าดีลข้างต้นจะแล้วเสร็จในช่วงเดือน พ.ค. ภายหลังที่ KTC ได้มีมติในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีในวันที่ 8 เมษายน
2. คาด Synergy ที่จะเกิดขึ้นภายหลังการเข้าซื้อ KTB leasing คือ KTC จะขยายประเภทสินเชื่อเพิ่มขึ้น ทั้งการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ และสามารถนำมาต่อยอดสินเชื่อพี่เบิ้มได้ ผ่านการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถแบบโอนเล่มทะเบียน
3. คาดดีลนี้จะทำให้มี upside ต่อประมาณการปี 2564 และปี 2565 ที่ 1-2% ต่อปี ภายใต้สมมติฐาน loan growth ปีละ 10% ตามเป้าหมายของบริษัท
อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยมีโอกาสที่จะปรับประมาณการกำไรสุทธิ และราคาเป้าหมายขึ้น ภายหลังที่ได้รับความชัดเจนจากงานประชุมนักวิเคราะห์ในวันที่ 15 ก.พ. นี้ เบื้องต้น แนะนำ “ถือ” ที่ราคาเป้าหมาย 70.00 บาท อิง 2564 PBV ที่ 6.7x