PTG สตอรี่เด็ดซุ่มทำ“กัญชง” แย้มชัดQ4กำไรทุบสถิติ (16/02/64)

330

มิติหุ้น-PTG สตอรี่เด็ด เล็งศึกษาทำกัญชงได้เปรียบด้านพื้นปาล์มคอมเพล็กซ์ที่ 1,000 ไร่ รับผลดีราคาน้ำมันพุ่ง พร้อมบุกธุรกิจมาร์จิ้นสูง LPG โบรกคาดผลงาน Q4 กำไรนิวไฮ ส่วนทั้งปี 64 โตกระจายให้เป้า 24.50 บ./หุ้น

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า PTG สนใจศึกษาทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกัญชง เนื่องจากมีความพร้อมในเรื่องของที่ดินซึ่งมีขนาดใหญ่รองรับกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งเป็นส่วนของการปลูกปาล์มหรือ “ปาล์มคอมเพล็กซ์” ซึ่งถือว่าได้เปรียบคู่แข่ง หาก อย. มีการเปิดให้ซื้อใบอนุญาต เบื้องต้นมีความเป็นไปได้ที่ PTG จะนำ กัญชงไปสกัด เพื่อพัฒนาไปต่อยอดในส่วนของธุรกิจ Non-oil

ลุยLPGมาร์จิ้นสูง

ขณะที่นายเบญจพล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/64 น่าจะได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของทิศทางราคาน้ำมัน  ขณะที่ค่าการตลาดก็ยังคงทรงตัวที่ระดับ 1.9-2 บาท และการบริโภคของประชาชนที่ฟื้นตัวหลังคลายล็อกดาวน์จากผลกระทบโควิด-19 จึงส่งผลให้กำไรยังคงเติบโตต่อเนื่องจากจากไตรมาส1/63 ที่มีกำไรสุทธิ 204 ล้านบาท โดยไตรมาส1/64 คาดจะมีบริการใหม่ๆในสถานีบริการ PT อย่างสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) สำหรับบริการรถยนต์ที่รองรับระบบไฟฟ้า โดยจะอยู่ตามหัวเมืองในพื้นที่ต่างจังหวัด  นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจ LPG ซึ่งมีอัตรากำไรที่สูงขึ้น มีโอกาสที่บริษัทจะเพิ่มสัดส่วนไปที่  LPG ภาคครัวเรือนมากขึ้น เนื่องจากยังมีสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับ LPG สำหรับรถยนต์ แต่ LPG รถยนต์ก็เริ่มฟื้นจากผลกระทบจากโควิด-19  ส่วนผลการดำเนินงานทั้งปี 64 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 1,874 ล้านบาท เติบโตราว 7 % จากปี

Q4กำไรนิวไฮพุ่ง 59 %

เช่นเดียวกับ นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า คาดผลการดำเนินงานไตรมาส4/63 ของ PTG จะนิวไฮ เติบโต 59 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิปี 360 ล้านบาท และเติบโต 6 % จากไตรมาสก่อนหน้า จากค่าการตลาดที่ทรงตัวในระดับที่ดี 1.8-1.9 บาทต่อลิตร ปริมาณขายที่สูงขึ้น รวมถึง EBITDA ของธุรกิจ Non-Oil ที่ฟื้นตัว ส่วนแนวโน้มไตรมาส 1/64 ได้รับผลกระทบบ้างจากการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ แต่คาดไม่หนักเท่าปีก่อน ขณะที่กำไรธุรกิจไบโอดีเซลที่สูงขึ้นจากนโยบายสนับสนุนของรัฐ คาดกำไรปี 64-65 โตต่อเนื่อง 11% และ 7% ตามลำดับ จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 24.50 บาท/หุ้น

www.mitihoon.com