มิติหุ้น – บมจ.โรงพยาบาลพระรามเก้า เผยผลงานไตรมาส 4/63 กวาดรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 735 ล้านบาท หลังผู้ป่วยในประเทศเริ่มกลับมาใช้บริการปกติในโรคซับซ้อน พร้อมบริหารจัดการต้นทุน และค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนุนอัตรากำไรสุทธิเติบโต 9.8% ผู้บริหารส่งสัญญาณปี 2564 เข้าสู่วัฎจักรการเติบโตก่อนโควิด
นายแพทย์เสถียร ภู่ประเสริฐ รองประธานกรรมการบริษัทและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 ประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2563 ว่า บริษัทมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 735 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปี 2562 มาจากผู้ป่วยในประเทศที่เริ่มกลับมาใช้บริการปกติ โดยเฉพาะการผ่าตัดในกลุ่มโรคซับซ้อนที่โรงพยาบาลมีความเชี่ยวชาญ เช่น โรคไต, โรคหัวใจ, โรคมะเร็ง และการผ่าตัดใหญ่ รวมถึงรายได้เสริมจากการบริการตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 และการบริการของโรงพยาบาลที่รองรับการเป็นสถานกักกัน (Alternative Hospital Quarantine – AHQ) อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปี 2563 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้นจำนวน 2,633 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทมีการจัดการต้นทุน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดีขึ้น ได้แก่ ค่าใช้จ่ายทางด้านบุคลากรที่ทำได้ดี จากการบริหารชั่งโมงทำงานและกระจายทรัพยากรบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิ สำหรับไตรมาส 4 เติบโต 9.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยประสิทธิภาพในการทำกำไรทรงตัว net margin ระดับปกติที่ราว 10%
นายแพทย์เสถียร กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลประกอบการของโรงพยาบาลพระรามเก้าในปี 2564 มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่เริ่มคลี่คลาย หลังจากรัฐบาลเริ่มนำเข้าวัคซีน โดยเน้นการฟื้นตัวจากผู้ป่วยในประเทศ รวมถึงการขยายศูนย์เฉพาะทางมากขึ้น จากการเปิดให้บริการอาคารใหม่ PRARAM 9 Medical Center ซึ่งปีนี้บริษัทมีกลยุทธ์ในการเพิ่มรายได้จากการรักษาโรคซับซ้อน อาทิ ผู้ป่วยโรคไต โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และเตรียมเปิดศูนย์เฉพาะทางใหม่ ได้แก่ ศูนย์เลสิค ศูนย์กระดูกสันหลัง ศูนย์มะเร็งและข้อสำหรับผู้สูงอายุ ศูนย์ Sleep lab สำหรับผู้มีปัญหาการนอน และยังคงมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าประกันที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการขยายช่องทางในการรักษาด้วย PR9 Telemedicine ในรูปแบบของ Official Line Account ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยมในต่างประเทศ พร้อมทั้งมีบริการส่งยาให้กับผู้ป่วยถึงบ้าน และบริการ Drive in Service ซึ่งปัจจุบันก็มีบริษัทประกันภัยเข้ามาเป็นพันธมิตรเครือข่ายมากขึ้น
“ปีที่แล้วเราปรับแผนยุทธศาสตร์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดทำให้ผลประกอบของเราเริ่มฟื้นตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา และในปีนี้แผนกลยุทธ์ที่เราเตรียมไว้ จะทำให้รายได้มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายแพทย์เสถียร กล่าว
www.mitihoon.com