ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี หรือ SAT โดย “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)” เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยแนะนำ “เพิ่มน้ำหนัก” เข้าลงทุนในหุ้น SAT ภายหลังรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/63ที่ 240 ล้านบาท เติบโต 199% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิจัยที่ 157 ล้านบาท จากอัตรากำไรที่ดีกว่าที่คาด
โดยรายได้รวมที่ 1,768 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 16% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งการฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน ตามอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ที่ยอดผลิตรถยนต์เติบโต 30% และบริษัทได้คำสั่งซื้อใหม่สำหรับเพลาข้างจากลูกค้าประเทศอเมริกา มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี
บุ๊กลูกค้า ‘DANA’เต็มพอร์ต
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 1/64 คาดว่าผลประกอบการยังฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามอุตสาหกรรมผลิตที่ฟื้นตัว ส่วนประเด็นที่ “ค่ายฮอนด้า” ประกาศหยุดไลน์การผลิต ในนิคมโรจนะ จ.ปราจีนบุรี เป็นการชั่วคราว 13 วัน ในช่วง 8-20 ม.ค. เนื่องจากปัญหา Supply Chain ในต่างประเทศสะดุด ฝ่ายวิจัยมองว่าเป็นผลกระทบเชิงลบแค่ระยะสั้น และบริษัทชี้แจงว่าสัดส่วนรายได้จาก ฮอนด้าเพียง 4% จึงไม่กระทบอย่างมีนัยสำคัญ และรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่จากบริษัท DANA ประเทศอเมริกาเต็มไตรมาส
ส่วนสถานการณ์ COVID-19 ทั่วโลกจะค่อยๆคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น หลังเริ่มมีการฉีดวัคซีนรักษา ส่วนการผลิตของอุตสาหกรรมจะปรับสู่ระดับปกติ ที่ 70-80% เทียบปี 63 ที่ 50-60% ฝ่ายวิจัยประเมินยอดผลิตรถยนต์ของอุตสาหกรรมปรับเพิ่ม 12% จากปีก่อน เป็น 1.59 ล้านคัน สูงกว่าประมาณการของสภาอุตสาหกรรมที่ 1.5 ล้านคัน
ขณะที่ SAT รับผลบวกจากออร์เดอร์ส่งออกไปยังอเมริกาเต็มปี โดยปี 64 คาดรายได้จะเติบโต 12% เป็น 6,530 ล้านบาท ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้น นอกจากผลของขนาดรายได้ที่เพิ่มขึ้น ยังรับผลบวกเต็มปีจากการปรับปรุงระบบการผลิตและควบคุมต้นทุนในปีก่อน โดยทั้งปี 64 คาดกำไรปกติที่ 766 ล้านบาท เติบโต 106% จากปีก่อน
อัพราคาเป้า19.20บ.
ดังนั้นฝ่ายวิจัยปรับคำแนะนำจากเดิม “เก็งกำไร” เป็น “ซื้อ” ปรับมูลค่าพื้นฐานปี 64 จากเดิมที่ 16.30 เป็น 19.20 บาท อิง PE เฉลี่ย 5ปี +1SD ที่ 10.7x สะท้อนการปรับเพิ่มประมาณการกำไร เหลือ Upside 17 % จากราคาปัจจุบัน ทั่งนี้บริษัทประกาศจ่ายปันปันผลงวดปี 63 ที่ 0.48 บาทต่อหุ้น (XD 3 มี.ค.64) คิดเป็น Yield จากราคาปัจจุบัน 2.9% และคาดจะเพิ่มเป็น 5.5% ในปี 64 อิงสมมติฐาน Dividend Payout 50%
www.mitihoon.com