ผมรู้สึกไม่พอใจกับ SET

2650

 

“เหตุเกิดจากความสับสนในการจัดหมวดธุรกิจเหล็ก ของทางตลาดหลักทรัพย์ฯ จนสุดท้าย MCS เดิมอยู่กลุ่มวัสดุก่อสร้าง..ก็ต้องกระเด็นมาอยู่ในกลุ่มเหล็กมันคืออะไร..ผมรู้สึกไม่พอใจกับ SETนายไน ยวน ชิ ประธานกรรมการ บมจ.เอ็ม.ซี.เอส.สตีล (MCS) กล่าว

และผมจะขอยกตัวอย่างตามรูปภาพนะครับว่าถึงแม้ว่าจะที่มาที่ไปเริ่มต้นคือเหล็ก 1 ตัน เหมือนกันแต่เมื่อผ่านขบวนการแปรรูปการจัดการเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเหล็กที่แตกต่างกันก็ไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน

รูปที่1 เหล็ก 1 ตัน นำมาแปรรูปเป็นเหล็กแท่ง เหล็กม้วนต่างๆนาๆแล้วขาย คือกลุ่มเหล็กที่เข้าใจกันได้ทั่วไปว่าเป็นเหล็กกลางน้ำและปลายน้ำ ก็ถูกจัดในหมวดเหล็ก

พอมารูปที่ 2 เหล็ก 1 ตัน เหมือนกัน ผ่านนวัตกรรมการการออกแบบต่างๆจนขึ้นรูปกลายเป็นโครงสร้างรถยนต์ ก็เป็นที่เข้าใจได้ และถูกจัดอยู่ในหมวดรถยนต์ เพิ่มมูลค่าจากเหล็กในรูปแรกอย่างมหาศาลก็ไม่ได้มีปัญหา

แต่พอรูปที่ 3  เหล็ก 1 ตัน เหมือนกัน ผ่านขบวนการผลิตออกแบบจากวิศวกรรมกลายเป็นเหล็กโครงสร้าง (Structure Steel Fabrication) เพื่อใช้สำหรับอาคารสูงในญี่ปุ่นเพื่อรองรับแผ่นดินไหว เพิ่มมูลค่าเหล็กเป็นระดับ 3-4 แสนบาท แต่กลับถูกจัดกลับมาในกลุ่มเหล็กจากเดิมอยู่ในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง

เดิม MCS ถูกจัดอยู่ในหมวดวัสดุก่อสร้าง

เดิม MCSตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ (ปี2548) มาถูกจัดอยู่ในหมวดวัสดุก่อสร้าง… แต่ต่อมาตลาดหลักทรัพย์ฯนึกอะไรอยู่ก็ไม่ทราบมีการเพิ่มกลุ่มเหล็กและมีการเปลี่ยนแปลงคำนิยามจน MCS กระเด็นมาอยู่ในกลุ่มเหล็ก ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ซึ่งมันไม่ถูกต้องและไม่สอดคล้องกับธุรกิจของบริษัท ทำให้ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทจึงไม่สอดคล้องและสะท้อนกับผลประกอบการของบริษัทฯที่มีกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอด และยังมีมาร์จิ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 35-40 % ต่อปี เนื่องจากเราไม่ได้ขายเหล็กแปรรูปทั่วไปเราผลิตเหล็กโครงสร้าง

และหัวใจสำคัญของการผลิตโครงสร้างเหล็กของบริษัทฯ คือ ประสิทธิภาพและความชำนาญงานของพนักงานและวิศวกรรมของบริษัทฯเป็นสำคัญ ไม่ใช่คุณภาพของวัตถุดิบเหล็กที่นำมาผลิตเป็นเหล็กโครงสร้างแต่อย่างใด ดังนั้นธุรกิจของบริษัท “จึงเป็นการรับเหมาทำโครงสร้างเหล็ก ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของอาคารให้แก่ลูกค้าตามแบบที่กำหนด”

นอกจากนี้ที่ญี่ปุ่นผู้ผลิตโครงสร้างเหล็กในประเทศญี่ปุ่น ที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่น ก็มีจัดกลุ่มธุรกิจอยู่ในหมวดธุรกิจ ผลิตภัณฑ์เหล็ก ไม่ได้อยู่ในหมวดเดียวกับกลุ่มผู้ผลิตแผ่นเหล็กเพื่อจำหน่ายให้กับผู้ผลิตโครงสร้างเหล็ก

ซึ่งขั้นตอนการรับจ้างผลิตเหล็กโครงสร้าง มีดังนี้

1.รับเหมาจากลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น เช่น KAJIMA, OBAYASHI, SHIMIZU เป็นต้น

2.ESTIMATE ทำการถอดแบบและคำนวณราคา เพื่อเสนอราคา

3.เสนอราคา

4.ตกรงรับจ้างผลิต/เซ็นสัญญา

5.วางแผนการผลิต

6.สั่งซื้อวัตถุดิบ(เหล็ก)

7.นำเข้าวัตถุดิบ(เหล็กแผ่นรีดร้อน) จากประเทศญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่

8.ทำการผลิต ซึ่งขั้นตอนการผลิตนี้ต้องทำโดยช่างผู้ชำนาญการ

9.ตรวจงานจากลูกค้า

10.ขนส่งชิ้นงานไปหน่วยงานก่อสร้างของลูกค้า

11.ให้บริการหลังขนส่งชิ้นงานไปหน่วยงาน

ดังนั้นรายได้ของบริษัทจึงไม่ใช่รายได้จากการขายเหล็กแปรรูป แต่เป็นรายได้จากการขายส่งมอบงานโครงสร้างผลิตเหล็กซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานรับเหมาก่อสร้าง

ไม่เพียงเท่านี้ด้านนักลงทุนส่วนใหญ่ยังมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อธุรกิจเหล็ก และมองว่าไม่น่าลงทุนและส่วนใหญ่มีผลประกอบการที่ขาดทุน ทำให้ไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทนเท่าที่ควร เพราะไม่เชื่อมั่นในผลประกอบการภาพรวมของหมวดธุรกิจเหล็ก ทำให้มูลค่าการซื้อขายหุ้นกลุ่มนี้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น รวมถึงราคาหุ้นของ MCS ด้วย

www.mitihoon.com