“คำว่าแก่… พูดเบาๆ ก็เจ็บ” รู้ทัน 6 สัญญาณความร่วงโรยของผิว

147

มิติหุ้น – ‘กระจกวิเศษ จงบอกข้าเถิด ใครงามเลิศในปฐพี? ถ้าโลกใบนี้มีกระจกวิเศษ เห็นทีกระจกคงได้ตอบกลับว่า “ทุกคนนั้นงามเลิศในปฐพี งามแบบที่ไม่มีใครเทียบ ต่างคนต่างมีความงามเป็นของตัวเองเจ้าค่ะขนาดกระจกยังไม่ปลื้ม ‘ความสวยหล่อแบบพิมพ์นิยม’ วันนี้เลยอยากชวนสาวๆ มาเปิดศักราชใหม่สู่ปี 2021 กับเทรนด์ Confidence to be…” ความงามที่ยังคงความเป็นตัวเอง พร้อมสำรวจ 6 สัญญาณความร่วงโรยของผิว และแบ่งปัน Beauty Well อีกหนึ่งวิธีดูแลความงาม ใช้รับมือกับทุกปัญหาผิวจาก แพทย์หญิง อัจจิมา สุวรรณจินดา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผ่าตัดผิวหนัง มะเร็งผิวหนังและเลเซอร์ผิวหนัง เพื่อเติมความมั่นใจ ให้เหล่าหนุ่มสาวได้ตกหลุมรัก(ษ์) ผิวหน้าและตัวเองซ้ำๆ แบบไม่ต้องใช้กระจกวิเศษที่ไหนมาช่วยยืนยัน
ปัญหาผิวร่วงโรย ผิวแก่ตามวัย (ที่บางทีก็มาก่อนวัยอันควร) เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น มลพิษ ความเครียด พฤติกรรมการกิน-ดื่ม-สูบ รวมไปถึงปัจจัยภายในอย่าง โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) หรือ ‘ฮอร์โมนแห่งความหนุ่มสาว’ ที่ค่อยๆลดลง เมื่อชีวิตก้าวเข้าสู่วัย 25 อัพ ที่ล้วนแต่ส่งผลให้เกิด 6 สัญญาณความร่วงโรยของผิวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ลองมองตัวเองในกระจกแล้วเช็กดูซิว่าเราเข้าใกล้ “ความแก่” กันแล้วหรือยัง

  1. ริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาหรือรอยตีนกา เกิดจากการแสดงออกทางทางสีหน้า หรือการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาซ้ำๆ
  2. ร่องลึกใต้ตาลึกและคล้ำ เกิดได้จากโครงสร้างหน้า ลักษณะพันธุกรรมที่มีมาแต่กำเนิด ไปจนถึงความเครียดและการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
  3. ผิวหน้าหย่อนคล้อย ผลพวงจากการที่มวลกระดูกที่ลดน้อยลง ทำให้จากเดิมที่โครงสร้างและกรอบของใบหน้าที่เคยดูเป็นทรวดทรง เริ่มมองเห็นได้ไม่ชัดและเกิดเป็นปัญหาร่องแก้มตามมา
  4. ผิวหน้าแห้งกร้าน ไม่สดใส จากแสงแดดที่ทำร้าย มลภาวะต่างๆ และการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนภายในร่างกาย รวมถึงวัยใกล้หมดประจำเดือน
  5. มุมปากตก หน้าบึ้ง อีกผลพวงเมื่อมวลกระดูกลดลงตามอายุที่มากขึ้น ส่งผลให้โครงหน้าเริ่มเปลี่ยน
  6. ริมฝีปากไม่อวบอิ่มและเล็กลง 

ใครไม่แคร์ “Self-Care” ดูแลและรัก(ษ์)ตัวเอง จากภายในสู่ภายนอก

แพทย์หญิง อัจจิมา ผู้ซึ่งเชื่อในพลังของการรักตัวเอง และกฎแห่งความสมดุลของร่างกายและจิตใจ ได้พูดถึงแนวทางการดูแลความงามไว้ว่า “ถ้าสุขภาพภายในดีก็จะช่วยให้ภายนอกดูดีขึ้นได้ ดังนั้น ใครที่กำลังมีปัญหา อยากให้ลองกลับมาดูแลตัวเองขั้นพื้นฐาน ตามคอนเซ็ปต์ Eat Well-Exercise Well-Live Well ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร หันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และทำจิตใจให้ผ่องใส” แต่ปัจจัยภายในอย่างโกรทฮอร์โมนที่ลดลงเรื่อยๆ ตามวัย รวมถึงอีกหลายปัจจัยแวดล้อมที่ยากเกินควบคุม ก็มีผลให้เกิดความเสื่อมสภาพของผิวหน้าจึงเป็นที่มาของอีกวิธีดูตัวเองสำหรับหนุ่มสาวยุคนี้ที่ แพทย์หญิง อัจจิมา เสริมว่า “อีกข้อก็คือ Beauty Well ที่นอกจากการดูแลผิวด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอแล้ว สำหรับบางปัญหาผิวก็จำเป็นต้องได้รับการดูแลและแก้ไขจากโครงสร้างผิวอย่างล้ำลึก”

คอร์สทำหน้า MASJ อีกทางลัดสู่ความงามแบบองค์รวม กว่า 25 ปีที่คร่ำหวอดในแวดวงผิวหนังและศาสตร์การแพทย์ชะลอวัยทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งรั้งตำแหน่ง Global Key Opinion Leader หรือแพทย์วิทยากรที่ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์การดูแลรักษาคนไข้แก่แพทย์รุ่นใหม่ ร่วมกับ Merz Aesthetics ผู้นำด้านนวัตกรรมความงามระดับโลก แพทย์หญิง อัจจิมา กล่าวว่า “คอร์สทำหน้า MASJ เป็นวิทยาการความงามที่กำลังเป็นอีก Beauty Well หรือวิธีการดูแลความงามยอดนิยมของหนุ่มสาวในหลายประเทศ คอร์สทำหน้า MASJ นั้น ประกอบด้วย 6 โปรแกรมดูแลความงาม เพื่อการแก้ปัญหาผิวครอบคลุม 6 สัญญาณร่วงโรยของผิวเฉพาะบุคคล  โดยรวมหลายวิทยาการความงามเข้าด้วยกัน สามารถแก้ปัญหาผิวร่วงโรยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เช่น การเติมสารเติมเต็มผิวอย่าง Filler (ฟิลเลอร์) ชนิด Hyaluronic Acid (ไฮยาลูโรนิค แอซิด) การใช้เทคโนโลยีอัลตร้าซาวด์ที่มีพลังงานคลื่นเสียงความถี่จากเครื่อง Ultherapy (อัลเทอราปี) มาช่วยปรับรูปหน้า ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย รวมไปถึงการเติมสารช่วยลดเลือนริ้วรอยที่มีความบริสุทธิ์แบบ 0% impurities ซึ่งผู้เข้ารับบริการคอร์สทำหน้า MASJ จะได้รับการออกแบบวิธีแก้ไขปัญหาผิวแตกต่างกันไปในแต่ละเคส หรือจะเรียกว่าเป็นความงามแบบเฉพาะตัว (Hyper-Personalize Beauty) ก็ว่าได้”

ทั้งนี้ แพทย์หญิง อัจจิมา ได้กล่าวทิ้งท้ายสำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะเดินเข้าคลินิกความงามว่า “สำหรับเรื่องความสวยความงาม ไม่มีอะไรที่เป็น One Size Fits All ทุกคนมีปัญหาผิวที่ แตกต่าง วิธีแก้ไขจึงแตกต่างกัน เราต้องรู้ใจและรู้ตัวเองก่อนว่ามีความกังวลในส่วนใด เพื่อที่จะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุด การวิเคราะห์ปัญหาผิวอย่างถูกต้อง คือที่มาของความสำเร็จในการรักษา ซึ่งในแต่ละกรณีก็จำเป็นต้องใช้วิธีที่หลากหลายและแตกต่างกันไป นอกจากนี้ ผู้รับบริการก็ควรตรวจสอบข้อมูลของทั้งผลิตภัณฑ์และคลินิกความงามให้ถ่องแท้เสียก่อน ยิ่งสมัยนี้ที่มีการโฆษณาและทำการตลาดเกินจริงกันอย่างครึกโครม ยิ่งต้องระวัง การรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองจากสถาบันที่เชื่อถือได้จะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างได้ผล รวมถึงไม่เสี่ยงอันตรายจากการให้บริการและเครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐานอีกด้วย”

www.mitihoon.com