ACE อวดกำไรปี63พุ่ง 1,508 ลบ. ลุยดีลซื้อโรงไฟฟ้าใหม่หนุนโต

59

มิติหุ้น – ACE เผยผลประกอบการปี 2563 เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กำไรสุทธิ 1,508 ล้านบาท เติบโต 85% จากปี 2562 โดยเป็นผลสำเร็จจากการบริหารและดำเนินงานกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ ทั้งการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องยาวนานเต็มประสิทธิภาพ การบริหารและควบคุมต้นทุนต่างๆ ได้เป็นอย่างดีทำให้โรงไฟฟ้าทุกประเภทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น และการบริหารต้นทุนทางการเงินที่ทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง พร้อมประกาศจ่ายปันผล หุ้นละ 0.018 บาท ซึ่งเมื่อบวกกับปันผลระหว่างกาลที่จ่ายไปก่อนหน้าตอนเดือนมิถุนายน 2563 อีก 0.03 บาท/หุ้น รวมเป็นเงินปันผล 0.048 บาท/หุ้น คาดปี 2564 เป็นจุดเริ่มต้นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดรอบใหม่ โดยจะมีการรับรู้รายได้เต็มงวดของโครงการต่างๆ ที่เริ่ม COD ไปเมื่อปลายปี 2563 การรับรู้รายได้บางส่วนของโครงการที่คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและ COD ได้ทันภายในปีนี้ และการรับรู้รายได้จากดีลการซื้อกิจการที่ COD แล้วที่อาจได้มาเพิ่มเติมในปีนี้ ด้านจำนวนโรงไฟฟ้าและจำนวนเมกะวัตต์ก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการเซ็น PPA ใหม่ๆ และการเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนและโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน

นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด(มหาชนหรือ ACE ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2563 ซึ่งมีการเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์แม้จะเป็นปีที่ประเทศไทยและทั่วโลกต้องเผชิญกับปัญหาที่รุนแรงของโรคระบาด COVID-19 โดยมีกำไรสุทธิ 1,508 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 85% จากปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 815 ล้านบาท ในขณะที่รายได้จากการขายและบริการ 4,988 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% จากปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 4,951 ล้านบาท

ปี 2563 แม้จะเป็นปีที่เศรษฐกิจไทยต้องได้รับผลกระทบเชิงลบอย่างรุนแรงจากโควิด-19 จนทำให้ GDP ของประเทศลดลง 6.1% จากปี 2562 แต่ด้วยกลยุทธ์การบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดี การปรับปรุงพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง ตลอดจนความร่วมมือร่วมใจและทุ่มเทของผู้บริหารและพนักงาน ACE ทุกคน ทำให้ปี 2563 กลายเป็นอีกปีที่ ACE สามารถทำผลงานได้ดีและมีผลกำไรที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็นที่น่าพอใจ โดย ACE ยังคงมีรายได้ที่เติบโตขึ้น จาก 4,951 ล้านบาท ในปี 2562 เป็น 4,988 ล้านบาท ในปี 2563 หรือเพิ่มขึ้น 0.7% ในขณะที่กำไรสุทธิปี 2563 มีการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็น 1,508 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปี 2562 ที่ทำได้ 815 ล้านบาท และนับเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของกำไรสุทธิที่ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2560 2561 2562 และ 2563 ที่ ACE มีกำไรสุทธิที่เติบโตจากปีก่อนหน้าในอัตราปีละ 149% 64% 49% และ 85% ตามลำดับ ดังนั้น กำไรสุทธิ 1,508 ล้านบาท ที่ทำได้ในปี 2563 จึงถือเป็น New High อีกครั้งของ ACE ซึ่งเป็นผลมาจากการที่กลุ่มบริษัทฯ สามารถเดินเครื่องโรงไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องยาวนานเต็มประสิทธิภาพ สามารถบริหารและควบคุมต้นทุนต่างๆ ได้ดีเยี่ยมจนทำให้โรงไฟฟ้าทุกประเภทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้กลุ่มบริษัทฯ ยังมีการบริหารต้นทุนทางการเงินที่ทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ACE กล่าว

นายธนะชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมานับเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน เป็นเครื่องยืนยันที่ดีว่าบริษัทฯ ได้เดินมาถูกทางตามกลยุทธ์ธุรกิจที่วางไว้ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีตามคาด และเป็นแรงส่งที่ดีที่จะทำให้การก้าวเดินต่อไปในอนาคตของ ACE เป็นไปด้วยความมั่นคงและมั่นใจตามแผนการขยายธุรกิจที่ได้วางไว้ โดยปี 2564 นี้ ACE ยังมีอีกหลายปัจจัยบวกที่จะเข้ามาช่วยสร้างโอกาสการเติบโต ทั้งในส่วนรายได้ กำลังการผลิต และผลกำไร ประกอบด้วย การรับรู้รายได้เต็มงวดของโครงการต่างๆ ที่เพิ่ง COD ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว การรับรู้รายได้บางส่วนของโครงการใหม่ๆ ที่คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและ COD ได้ทันภายในปีนี้ การทยอยลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ของโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ ที่อยู่ในมือ อาทิ โครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid อีก โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 73 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล VSPP อีก 11 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 108.9 เมกะวัตต์ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนและมีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ รวมถึงโอกาสการได้มาซึ่งโครงการใหม่ๆ จากการที่ภาครัฐมีแผนที่จะเปิดประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่อง 150 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ ซึ่ง ACE ก็มีความพร้อมเต็มที่ในการเข้าร่วมประมูลในส่วนนี้

นอกจากนี้ยังมีโอกาสจะได้เห็นดีลซื้อกิจการโรงไฟฟ้าใหม่ๆ ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในปีนี้ หลังมีผู้เสนอเข้ามาให้พิจารณาจำนวนมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบสถานะ (Due Diligence) และการเจรจา โดย ACE จะพิจารณาความคุ้มค่าในการลงทุนและความเสี่ยงเป็นหลักสำคัญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเมื่อซื้อเข้ามาแล้วจะช่วยให้ผลประกอบการของ ACE เติบโตได้ดียิ่งขึ้นและเป็นไปอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ปัจจุบัน กลุ่มบริษัท ACE มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วกำลังการผลิตติดตั้งรวม 245.91 เมกะวัตต์ (ข้อมูล ณ 31 ธันวาคม 2563) และมีกำลังการผลิตติดตั้งที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 203.66 เมกะวัตต์ รวมเป็นกำลังการผลิตติดตั้ง 449.57 เมกะวัตต์ ด้วยความพร้อมในด้านต่างๆ ที่มีซึ่งรวมกันเป็นความได้เปรียบในการแข่งขันของ ACE ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมด้านเชื้อเพลิงชีวมวลที่มี Supply Chain ที่เข้มแข็งตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ความพร้อมด้านเทคโนโลยีและการออกแบบโรงไฟฟ้าที่เป็นต้นแบบของโลก ความพร้อมด้านการเดินเครื่องจักรและการซ่อมบำรุงเครื่องจักรโรงไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และความพร้อมด้านการเงินและแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้ในการขยายธุรกิจ ACE จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างความเติบโตให้กิจการและเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งของโรงไฟฟ้าด้วยการเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ และการเจรจาซื้อกิจการโรงไฟฟ้าต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศอีกเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อขับเคลื่อนให้ ACE บรรลุเป้าหมายการเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งให้ได้มากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567

www.mitihoon.com