ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายกัญญ์ณณัฏฐ์ บุญสุมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสจีเอฟ แคปปิตอล หรือ SGF เปิดเผยว่า ปัจจุบันความต้องการใช้สินเชื่อในตลาดยังมีอยู่ค่อนข้างสูง ซึ่งบริษัทยังคงเดินหน้าในการขยายพอร์ตสินเชื่อรายย่อย โดยในช่วงไตรมาส 1/64 พบว่าลูกค้าที่ต้องการใช้สินเชื่อจำนำทะเบียนและรีไฟแนนซ์รถยนต์มีเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งบริษัทมีระบบในการคัดกรอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงการเกิดเป็น NPL อย่างเข้มข้น แต่มั่นใจว่าจะทำผลงานได้ใกล้เคียงกับช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปี 63
มีลุ้นงบQ1/64พุ่งทำนิวไฮ
โดยในไตรมาส3/63 บริษัทมีกำไรสุทธิ 38 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิในไตรมาส 2/63 ที่ 33 ล้านบาท และในงวด 9 เดือนแรกของปี 63 บริษัทมีกำไร 15.5 ล้านบาท ส่วนทั้งปี 2563 มีกำไรสุทธิที่ 40.7 ล้านบาท
ทั้งนี้ในปัจจุบัน สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง, สินเชื่อจำนำทะเบียน และสินเชื่อรีไฟแนนซ์ ยังคงเป็นที่มาของรายได้หลักของบริษัท โดยมีสัดส่วนราว 90% ของพอร์ต ในขณะเดียวกัน บริษัทจะรุกสินเชื่อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอย่างเต็มที่ หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวให้บริการในช่วงเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา และพบว่ามีการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเปิดกว้างในการมีพันธมิตรรายใหม่เข้ามาเสริมแกร่ง โดยในขณะนี้ยังพิจารณาที่ความเหมาะสม เนื่องจากมีองค์ประกอบหลายด้าน ซึ่งต้องเน้นการสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจเดิมอย่างเต็มที่
ราคาต่ำบุ๊กที่1.25บ.-ทุนใหญ่รุมจีบ
ด้านแหล่งข่าว “นักวิเคราะห์” ระบุว่า ขณะนี้ธุรกิจเช่าซื้อกำลังเป็นที่สนใจของผู้ลงทุนรายใหม่ ที่ต้องการเข้ามาในในธุรกิจจำนวนมาก เนื่องจากธุรกิจเงินด่วนทุกประเภท จะใช้เงินปล่อยกู้ให้แต่ละรายไม่มาก ขณะที่อัตราดอกเบี้ยดี เพียงแต่ต้องมีการควบคุมความเสี่ยงที่ดี ก็จะขยายพอร์ตให้เติบโตได้ง่าย
สำหรับ SGF เป็นบริษัทที่มีอัตราหนี้สินต่ำเพียง 0.35 เท่า มี Book value 1.25 บาท ขณะที่ผลประกอบการมีกำไรดี สามารถเก็บหนี้จากลูกค้าได้ดี โดยในช่วงที่โควิดระบาดรอบแรกในปี 2563 มีลูกค้าที่ขอพักชำระหนี้กับ SGF ราว 1,400 ราย แต่ขณะนี้สามารถกลับมาเป็นปกติสามารถชำระหนี้ได้ตามเดิม ในขณะที่พอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนยังเติบโตไม่หยุด ดังนั้นจึงเป็นที่สนใจของกลุ่มทุนใหญ่ที่ต้องการเข้ามาร่วมทุน และเข้ามาทาบทามบริษัทหลายราย คาดว่าในระยะอันใกล้จะมีความคืบหน้าที่ชัดเจนออกมา
www.mitihoon.com