ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า สำนักวิจัย บล.ทิสโก้ คาดกำไรของ บมจ.ซีฟโก้ หรือ SEAFCO จะดีขึ้นในช่วงไตรมาส1/64 จึงแนะนำ “ถือ” ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยระบุว่า จากการพูดคุยกับฝ่ายบริหารของ SEAFCO มองว่า ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในช่วงไตรมาส4/63 โดยผลประกอบการที่แย่นั้นมาจากการปรับกำไรขั้นต้นพิเศษ และการตั้งสำรองหนี้เสีย เราคาดกำไรจะดีขึ้นในช่วงไตรมาส1/64 แต่ยังค่อนข้างอ่อนแออยู่ เนื่องจากการแข่งขันที่สูง ทำให้อัตรากำไรลดลง อย่างไรก็ตาม มุมมองระยะยาวยังคงดี เนื่องจากโครงการใหม่ๆ ที่อาจเกิดในอนาคตช่วยขับเคลื่อนกำไรในปี2565 จึงแนะนำ ถือ เนื่องจากอัพไซด์ที่จำกัด
การปรับกำไรขั้นต้นและการตั้งสำรองหนี้เสียเป็นสาเหตุขาดทุนในQ4
กำไรขั้นต้นที่ติดลบในช่วง 4Q20 มาจากการปรับกำไรขั้นต้นตามคาด โดยส่วนใหญ่มาจากโครงการมอเตอร์เวย์ (บางใหญ่-กาญจนบุรี) เนื่องจากการโอนที่ดินช้ากว่าคาด ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการแสตนด์บาย ส่วน S&A ที่เพิ่มขึ้นมากเกิดจากการตั้งสำรองหนี้เสีย 22 ลบ. ซึ่งอาจตัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ย้อนหลังได้ หาก SEAFCO ชนะคดี (แต่คาดจะใช้เวลานาน) หากไม่นับปัจจัยดังกล่าวคาดบริษัทจะยังมีกำไรค่อนข้างบาง
คาดกำไรจะดีขึ้นในช่วงQ1 แต่ยังค่อนข้างอ่อนแอ
เนื่องจากการปรับกำไรขั้นต้นและการตั้งสำรองที่ผ่านมานั้นเป็นเพียงเหตุการณ์ครั้งเดียว เราคาดกำไรจะปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 1Q21F โครงการ Forestias ได้เริ่มก่อสร้างแล้วในช่วงมกราคม ส่วน Central Embassy คาดจะเริ่มก่อสร้างในช่วง 2Q21F อย่างไรก็ตาม กำไรจะยังอ่อนแอ เนื่องจากการก่อสร้างยังคงล่าช้า และมีการแข่งขันสูงกดดันกำไรขั้นต้น แม้จะมีโครงการใหม่ๆ ในกระบวนการ แต่ทั้งหมดจะเริ่มสร้างหลัง 2H ทำให้ผลดีน่าจะตามมาในช่วง 2022F
แนะนำ ถือ ด้วยมูลค่าเหมาะสมที่ 5 บาท
เราประเมินมูลค่าเหมาะสมใหม่อิง PER 14.6x-16.7x (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 6 ปี) และเนื่องจากเหตุการณ์น่าจะผ่านจุดที่แย่ที่สุดแล้ว เราจึงปรับมูลค่าเหมาะสมเป็น 5 บาท จากเดิม 4.42 บาท เราแนะนำ ถือ จากอัพไซด์จำกัด และทิศทางระยะสั้นกลางๆ แต่ระยะยาวดูดี ปัจจัยเสี่ยงเชิงลบได้แก่ ขาดโครงการใหม่ๆ ค่าใช้จ่ายบานปลายจากการก่อสร้างล่าช้า ค่าจ้าง ค่าวัสดุก่อสร้าง และราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น