มิติหุ้น – บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้นำด้านธุรกิจพลังงาน พลังงานหมุนเวียน และยานยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลื
อก จัดกิจกรรมบริษัทจดทะเบียนพบนั
กลงทุนผ่านช่องทางออนไลน์ (Opportunity Day) โดยนางสาว ยุกานดา วิทยานันท์ นักลงทุนสัมพันธ์ เผยถึงภาพรวมการดำเนินงานของบริ
ษัทในปี 2563 ผลการดำเนินงานทางการเงิน รวมถึงทิศทางธุรกิจและอั
พเดตแผนงานของบริษัทที่น่าจั
บตามอง
ภาพรวมของบริษัทด้านธุรกิจพลังงานปี 2563 โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ประเทศเมียนมาร์ ขนาด 220 เมกะวัตต์ ที่บริษัทลงทุนผ่าน บริษัท กรีนเอิร์ธ พาวเวอร์ ไทยแลนด์ จำกัด (GEP) สามารถจำหน่ายไฟฟ้าได้ดีเกินคาด สร้างกำไรได้ถึง 180 ล้านบาท ด้วยเป็นโรงไฟฟ้าสำคัญที่ผลิตและจำหน่ายไฟให้กับทางภาครัฐเพื่อส่งต่อไปสู่การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆเพื่อการพัฒนาประเทศ และโครงการเฟส 2-3 เริ่มการก่อสร้างแล้วคาดว่าจะทยอย COD ได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/2564 และ ไตรมาส 2/2565 เป็นต้นไป ด้าน“บริษัท สแกน แอดวานซ์ เพาเวอร์ จำกัด” หรือ SAP ที่บริษัทเข้าไปลงทุนเพื่อทำโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา ก็สามารถดำเนินงานไปได้อย่างราบรื่น COD อย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นปี 2563 บริษัทได้ลงนามเซ็นสัญญาติดตั้งไปแล้วกว่า 17 เมกะวัตน์ แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิดก็ตาม ซึ่งในปี 2564 ตั้งเป้าเพิ่มอีก 30 เมกะวัตต์
ด้านงานซ่อมบำรุงรถบัส NGV จำนวน 489 คันที่ทางบริษัทส่งมอบให้ ขสมก.ไปแล้ว ยังคงสร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทปรับปรุงกระบวนการทำงาน มีประสิทธิภาพเหนือกว่าที่มาตรฐานกำหนด ในขณะที่สามารถบริหารจัดการต้นทุนให้ต่ำลงได้อีกทั้งเมื่อช่วงปลายปี 2563 บริษัทยังได้ประกาศข่าวดีลงนามสัญญาซ่อมบำรุงรักษาสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ (NGV) ปตท. มูลค่ากว่า 195 ล้านบาท ตอกย้ำความแข็งแกร่งการเป็นผู้นำด้านก๊าซธรรมชาติสมฉายา ‘The King of NGV’ ทั้งบริษัทฯ ยังคงสามารถบริหารจัดการงานธุรกิจก๊าซได้อย่างดี ด้วยการบริหารจัดการที่ดีภายในและการเปลี่ยนแปลงตัวเองตามสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
ด้านผลการดำเนินงานทางการเงินปีที่ผ่านมา ยังคงมีรายได้หลักจากธุรกิจจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ ในขณะที่ธุรกิจพลังงานทดแทนมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โตขึ้นอย่างก้าวกระโดด มีกำไรในกลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงกว่า 7 เท่า ส่งผลให้ปี 2563 บริษัทมีรายได้จากการลงทุนและดำเนินงานรวม 1,495.7 ล้านบาท รับรู้กำไรอยู่ที่ 43.4 ล้านบาท และมีกำไรสะสมสูงถึง 591.19 ล้านบาท สะท้อนสถานะทางการเงินที่มั่นคง ทางบริษัทจึงเตรียมเสนอมติขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการประชุม AGM ของบริษัทช่วงเดือนเมษายนนี้ เพื่อจ่ายเงินปันผลประจำปี 2563 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.0425 บาท
นอกจากนี้ นางสาว ยุกานดา เผยว่าปี 2564 บริษัทมุ่งเน้นการสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งให้กับทุกประเทศธุรกิจด้วยกลยุทธ์ “30+30+30+10” คือ (เรียงตามลำดับ)
30 : จำหน่ายและให้บริการก๊าซธรรมชาติ โดยมุ่งสร้างรายได้จากการจำหน่ายและบริการ iLNG iCNG ให้มากขึ้น
30 : พลังงานทดแทน คือสร้างรายได้ที่มั่นคงและต่อเนื่องจากโครงการมินบูและ solar rooftop ของ SAP
30 : ยานยนต์ คือสร้างความพร้อมในการเข้าแข่งขัน และมองหาโอกาสใหม่ในธุรกิจยานยนต์
และ 10 : โลจิสติกและธุรกิจอื่นๆ คือ เพิ่มช่องทางเพื่อสร้างผลกำไรสูงสุดในธุรกิจขนส่ง ขนถ่ายสินค้า มุ่งเน้นการให้บริการที่กว้างและครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงแสวงหาโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มเติมจากธุรกิจประเภทอื่นๆ โดยนำองค์ความรู้และศักยภาพด้านการดำเนินงานที่บริษัทมีมาใช้เป็นกำลังสำคัญ เช่นการนำความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มี มาพัฒนาต่อยอดและการบูรณาการใน“บริษัท สแกน ไอซีที จำกัด” หรือ SCAN ICT ที่ปัจจุบันได้รับงานพัฒนาปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญให้แก่ภาครัฐและเอกชนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเป็นธุรกิจสนับสนุนที่มาเสริมให้ผลการดำเนินงานรวมของปี 2564 เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
www.mitihoon.com