TACC หน้าร้อนดันยอดขายพุ่ง เล็ง‘กัญชง’ทำเงิน-เป้า12.60 บ. (19/03/64)

251

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” บมจ.ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ หรือ TACC โดย “นายอำนาจ โงสว่าง” ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ปัจจัยพื้นฐาน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยแนะนำ “เพิ่มน้ำหนัก” เข้าลงทุนในหุ้น TACC เพราะในปี 64 มั่นใจผลงานจะเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตที่ระดับ 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1.31 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจ B2B (โถกดน้ำ 7-11 และ All-café) เติบโตโดดเด่น

ลุยธุรกิจกัญชง

อีกทั้งบริษัทยังสนใจ “ธุรกิจกัญชง” ซึ่งบริษัทสนใจสินค้าในกลุ่มสารสกัด CBD โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่า TACC มีความได้เปรียบและมีความพร้อมสำหรับ “ธุรกิจกัญชง” หาก อ.ย. อนุมัติให้สามารถจำหน่ายได้เชิงพาณิชย์ จากการที่บริษัทได้เข้าร่วมลงทุน 30% ในบริษัท TCI ซึ่งเป็นกลุ่มนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านกัญชา-กัญชง มากกว่า 10 ปี และจากการ TCI เซ็น MOA กับ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ทำให้ทางบริษัท TCI มีใบอนุญาตในการปลูกและสกัดสาร CBD

รวมถึง TACC อยู่ระหว่างทดลองนำสินค้า (โถกดน้ำ) ไปจำหน่ายในศูนย์อาหารของ Tesco Lotus และอยู่ระหว่างเจรจาในการกระจายเข้าไปใน Lotus Express ที่มีมากถึง 1,600 สาขาทั่วประเทศด้วย ไม่เพียงเท่านั้น TACC จะมีรายได้จากส่วน All-café เพิ่มขึ้นจากการรับรู้รายได้จากการ upsize แก้ว 22 oz. ทั่วประเทศเต็มปี และ คาดรายได้ character business เติบโต 60-70% จากปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของละครขึ้นอีก 2 ตัว ในปี 64 ส่งผลให้บริษัทมีตัวการ์ตูนทั้งหมด 5 ตัว

เด้งรับหน้าร้อน-กำไรพีคไม่หยุด

ดังนั้นทั้งปี 64คาดกำไรสุทธิทำนิวไฮที่ 236 ล้านบาท เติบโต 25% จากปีก่อน และ ปี 65 กำไรสุทธิทำนิวไฮต่อเนื่องที่ 264 ล้านบาท เติบโต  11% จากปีก่อน จากการขยายสาขา 7-11 ที่ 700 สาขา/ปี และ GPM ที่สูงขึ้นจาก project “upsize 22 oz.” โดยประมาณการกำไรปี 64 ยังมี upside จากธุรกิจเครื่องดื่มกัญชงและ Tesco Lotus ปัจจุบันแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 11.60 บาท

ด้าน “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์แห่งหนึ่ง”  เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานช่วงครึ่งแรกปี 64 จะเติบโตโดดเด่น เพราะได้รับอานิสงส์การเข้าสู่ช่วงไฮซีซันหน้าร้อนทำให้ยอดขายเติบโตโดดเด่น และมีรายได้ส่วน All-café เพิ่มขึ้นจากการรับรู้รายได้จากการ upsize แก้ว 22 oz. เต็มปี และเตรียมจับมือพันธมิตรเพื่อออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แนะนำ “ซื้อ”

“บล.เคจีไอ” เปิดเผยว่า ฝ่ายววิจัย แนะนำ “ซื้อ” โดยขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 12.60 บาท (อิงจาก P/E เฉลี่ยห้าปีย้อนหลังที่ 30x) จากราคาเป้าหมายปี 64 ที่ 11.00 บาท ฝ่ายวิจัยยังคงเลือก TACC เป็นหุ้นเด่นจากแนวโน้มอัตรากำไรที่แข็งแกร่ง และ ROE ที่สูง (26.5% ในปี 2563 และ 31.6% ในปี FY64-65F)

www.mitihoon.com