ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ. เอ.เจ.พลาสท์ หรือ AJ ว่า AJ ดำเนินการอยู่ในอุตสาหกรรมฟิล์มพลาสติกและมีรายได้หลักจากการส่งออกผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯไปยังประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลัก เน้นไปที่บรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค โดยตลาดบรรจุภัณฑ์พลาสติกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีแนวโน้มเติบโต 6.2% CAGR จนถึงปี 2569 โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา (ยกเว้นจีนและอินเดีย) ที่มีโอกาสเติบโตในระดับ 20% CAGR เนื่องมาจากการ Urbanization ของประเทศต่างๆ ซึ่งทำให้มีความต้องการบรรจุภัณฑ์พลาสติกเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ Demand ของอุตสาหกรรมยังได้รับแรงหนุนจากการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก ที่มีความต้องการใช้สินค้า Hygiene และ Packaged Food สูง คงคำาแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2564 ลงเป็น 22.50 บาท ฝ่ายวิจัยปรับลดราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2564 เป็น 22.50 บาท/หุ้น อิง PBV ที่ 2.0x จากการลดประมาณการกำไรปกติปี 2564 ลง โดยยังคงมี Upside gain 16.0% คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยราคาหุ้นยังมีUpside จากการทำ JV ร่วมกับกลุ่ม SCC ในเวียดนาม คาดเริ่มรับรู้รายได้จาก JV ดังกล่าวในปี 2565 นอกจากนี้ AJ ยังคงอยู่ในช่วงยื่นคำร้องกับกรมการค้าต่างประเทศในการประกาศใช้มาตรการป้องกันการทุ่มตลาด (AD)
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยผลประกอบการไตรมาส 1/64 มีโอกาสพลิกฟื้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/64 ที่ 76 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนในช่วงเดียวกันของปี ก่อน แต่ลดลง -52.0% QoQ ด้วยผลกระทบจากรายการพิเศษต่างๆ หากหักรายการพิเศษออก โดยคาดกำไรปกติไตรมาส 1/64 ที่ 91 ล้านบาท ฟื้นตัว +54.6% QoQ และ +12.2% YoY โดยได้แรงหนุนจากปริมาณขายที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการปรับ
ราคาขายขึ้นเพื่อสะท้อนราคาของวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 4Q63-1Q64