วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

88

 

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังอุปสงค์น้ำมันดิบมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น

+ ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกมีแนวโน้มดีขึ้น หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) และ กลุ่มโอเปกปรับเพิ่มการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้ โดย IEA เพิ่มการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกเป็น 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากคาดการณ์ก่อนหน้าไว้ที่ 5.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ใกล้เคียงกับกลุ่มโอเปกที่คาดว่าอุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกจะสามารถเพิ่มขึ้น 6 ล้านบาร์เรลต่อวัน

+ ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุน จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สามกว่า 5.9 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 เม.ย. อยู่ที่ระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี เพียง 1% เป็นครั้งแรกในรอบปี

– การแจกกจ่ายวัคซีนในหลายประเทศชะลอลง หลังสหรัฐฯ และหลายประเทศในยุโรปประกาศหยุดใช้วัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเป็นการชั่วคราว หลังสำนักงานการจัดการอาหารและยาสหรัฐฯ  (FDA) พบการเกิดลิ่มเลือดในกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนชนิดนี้

ราคาน้ำมันเบนซิน-ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันเบนซินในตะวันออกกลางมีแนวโน้มลดลง จากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังลดลง  3% อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ในขณะที่โรงกลั่นหลายแห่งในเอเชียอยู่ในช่วงหยุดซ่อมบำรุงตามฤดูกาล

ราคาน้ำมันดีเซล-ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปริมาณการน้ำเข้าน้ำมันดีเซลของเวียดนามที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน ท่ามกลางปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลจากจีนลดลง

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์