ไทยพาณิชย์ประกาศผลกำไรสุทธิประจำไตรมาส 1 ปี 2564 จำนวน 10,088 ล้านบาท

86

มิติหุ้น – ธนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ (งบการเงินรวมก่อนสอบทาน) ในไตรมาส 1 ของปี 2564 จำนวน 10,088 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 103.2% จากไตรมาสก่อน ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองมีจำนวน 22,652 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากความแข็งแกร่งของธุรกิจในการขยายฐานรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย และความมุ่งมั่นในการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

ในไตรมาส 1 ของปี 2564 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 23,376 ล้านบาท ลดลง 9.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ที่ลดลงในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ แม้ว่าสินเชื่อโดยรวมขยายตัว 8.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และต้นทุนทางการเงินปรับตัวลดลง

รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 14,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2% จากปีก่อน การเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเป็นผลของการขยายฐานรายได้ของธุรกิจการขายผลิตภัณฑ์ประกันผ่านธนาคารและธุรกิจการบริหารความมั่งคั่ง และการรับรู้กำไรตามราคาตลาดในปัจจุบันของพอร์ตการลงทุนของธนาคารและบริษัทในเครือ

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีจำนวน 15,101 ล้านบาท ลดลง 7.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดลงของต้นทุนในการให้บริการจากการใช้ช่องทางดิจิทัลที่มากขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ของธนาคารในไตรมาส 1 ของปี 2564 ปรับตัวดีขึ้นอย่างเด่นชัดเป็น 40% เมื่อเปรียบเทียบกับ 44% ในปีก่อน

ในไตรมาส 1 ของปี 2564 ธนาคารได้ตั้งเงินสำรองจำนวน 10,008 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในปีก่อน อย่างไรก็ตามการตั้งเงินสำรองยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าสภาวะปกติ ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในปัจจุบัน

อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2564 อยู่ที่ 3.79% เพิ่มขึ้นจาก 3.68% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563 การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลของการบริหารจัดการสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างรอบคอบของธนาคารด้วยการการจัดชั้นลูกหนี้เชิงคุณภาพและแนวทางการแก้ไขสินเชื่อด้อยคุณภาพโดยคำนึงถึงมูลค่าสินทรัพย์ในระยะยาว ทั้งนี้ อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารยังอยู่ในระดับสูงที่ 139.6% ในขณะที่เงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.2%

www.mitihoon.com