มิติหุ้น – นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW) มั่นใจว่าในวันพรุ่งนี้(28 เมษายน 2564) หุ้น ASW จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก มั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก เพราะบริษัทฯ มีความโดดเด่นในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นทีมงานที่พร้อมจะทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคงแข็งแกร่ง และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต ณ สิ้นปีที่แล้ว มียอดขายรอโอนกว่า 7,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ ไปจนถึงปี 2566 และปัจจุบันมีโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และเปิดขาย 8 โครงการ มูลค่า 11,377 ล้านบาท และโครงการในอนาคตอีก 11 โครงการ มูลค่ารวม 21,202 ล้านบาท ซึ่งจะพัฒนาและขายใน 4-5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตได้ในระยะยาว
“การเข้าจดทะเบียนในSET จะช่วยให้บริษัทฯมีฐานทุนเพิ่มขึ้น สามารถขยายงานได้มากขึ้น และได้รับการยอมรับจากลูกค้า รวมทั้งต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ทำให้ความสามารถในการสร้างรายได้ และกำไรสูงขึ้น ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต”นายกรมเชษฐ์ กล่าวในที่สุด
นางยอดฤดี สันตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญของ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) ( ASW) เปิดเผยว่ามีความมั่นใจว่าเมื่อหุ้น ASW เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคึกคัก หลังช่วงที่เปิดเสนอขายหุ้นนั้นมีกระแสความต้องการหุ้น ASW มากกว่าจำนวนที่จัดสรรหลายเท่าตัว
“จากความต้องการที่ล้นหลามครั้งนี้ นอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ ASW แล้ว อีกประเด็นสำคัญน่าจะเป็นเรื่องของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่ในระดับต่ำ และมาตรการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ฯ ของภาครัฐ ที่มีการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และจดทะเบียนจำนองสำหรับอสังหาริมทรัพย์ บ้าน -คอนโดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งตรงกับผลิตภัณฑ์และกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัท จึงน่าจะเป็นส่วนที่สนับสนุนให้ผลประกอบของแอสเซทไวส์เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
นางศิริพร เหล่ารัตนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการเสนอขายหุ้น IPO ของ ASW กล่าวว่า ASW จะเป็นหุ้นน้องใหม่ในกลุ่มอสังหาฯ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนได้ เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยเป็นผู้พัฒนาโครงการที่มี มีความโดดเด่นในด้านทำเลที่ตั้ง มีแบรนด์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จึงทำให้มีความคล่องตัวในการทำงานสูงมาก รวมทั้งมีการบริหารจัดการควบคุมต้นทุนได้ดี ขณะเดียวกันมีโอกาสเติบโตอย่างโดดเด่นจากความสามารถในการทำกำไรสูง เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกัน
นอกจากนี้ ภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีศักยภาพในการแข่งขันสูงขึ้น มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับ ดังนั้นจึงทำให้มีโอกาสที่จะขยายงานหรือพัฒนาโครงการคุณภาพเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่มาตรการรัฐที่สนับสนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนบริษัท ให้รายได้และกำไรในอนาคตเติบโตได้อย่างมั่นคง
ทั้งนี้ ASW เสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 206 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์