ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) (AEONTS) แจ้งกำไรสุทธิงวด 4Q63/64 (ธ.ค.63-ก.พ.64) เท่ากับ 1.2 พันล้านบาท (+12%YoY, +17%QoQ) ฝ่ายวิจัยบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า กำไรที่ออกมาดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยและตลาดคาดไว้ 20% เนื่องจากตั้งสำรอง ECL ต่ำกว่าคาด สำหรับทั้งปี 63/64 มีกำไรสุทธิ 3.7 พันล้านบาท (-7%YoY)สินเชื่อไตรมาส 4/63/64 หดตัว -1.2%QoQ และ -3.1%YoY เนื่องจากการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคลดลงในช่วงโควิดระบาด
ส่วนรายได้รวมไตรมาส 4/63/64 หดตัว -19%YoY และ -5%QoQ ส่วนทั้งปี 63/64 ลดลง -9%YoY เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัวเมื่อมีวิกฤตโควิด-19 ประกอบกับหนี้ภาคครัวเรือนอยู่ในระดับสูง นอกจากนั้นธปท.ลดเพดานอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตลงเป็น 16% ต่อปี (จาก 18%) และอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลลงเป็น 25% ต่อปี (เดิม 28%) มีผล 1 ส.ค.63 เป็นต้นไป ทำให้ Yield ลดลง อย่างไรก็ดี รายได้จากการกลับหนี้สูญเพิ่มขึ้น +18%YoY และรายได้จากต่างประเทศเติบโต +10%YoY ในปี 63/64
ขณะที่สเปรดลดลง YoY จาก Yield ต่ำลง ทั้งจากการลดอัตราดอกเบี้ยดังข้างต้น และมีการลดค่าผ่อนชำระบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลให้กับลูกหนี้แม้ว่าต้นทุนการเงินจะต่ำลงก็ตาม ส่วนด้านค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง -10%YoY ในปี 63/64 จากการลดค่าใช้จ่ายพนักงาน, ค่าขนส่งและยานพาหนะ, ลดพื้นที่เช่า รวมถึงค่าใข้จ่ายด้านการตลาด
ส่งผลให้ระดับ NPL ratio เพิ่มเป็น 5.8% ในสิ้นปี 63/64 (จาก 4.5% ในสิ้น 3Q63/64 และจาก 3.7% ในสิ้นปีก่อน) เป็นไปตามที่บริษัทประเมินไว้ การตั้งสำรอง ECL ลดลง YoY และ QoQ เนื่องจากตั้งสำรองไปก่อนหน้าเป็นจำนวนมากตั้งแต่ที่มีวิกฤตโควิด-19จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 254 บาท/หุ้น
www.mitihoon.com
