ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ฝ่ายวิเคราะห์ได้ประเมินภาพรวมธุรกิจของ บมจ.เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ หรือ SNC ที่เริ่มเห็นการปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ หลังจากที่ SNC ได้มีการควบคุมค่าใช้จ่ายในลดลงจากการปรับขนาดองค์กรและอื่นๆ ในปีที่ผ่านมา บวกกับได้รับอานิสงส์จากฤดูขายและมีประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น ทำให้คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 ปรับตัวดีขึ้นทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน ฝ่ายวิเคราะห์จึงยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการดำเนินงานของ SNC ในปี 61 ว่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ด้วยไม่มีการขยายการลงทุนมากเหมือนกับในอดีต
อย่างไรก็ตาม คาดว่ายอดขายในปี 61 นี้ จะลดลงราว 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มียอดขาย 7,133 ล้านบาท เป็นผลมาจากยอดขายกลุ่มรับจ้างผลิต (OEM) คาดลดลง 26% จากลูกค้าหลักกลุ่มผลิตเครื่องปรับอากาศ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐานประหยัดไฟ และลูกค้าซึ่งเป็นผู้ผลิตฮีตปั๊มสำหรับเครื่องทำน้ำร้อนเพื่อส่งออกไปยังฝรั่งเศสได้มีการสต็อกสินค้าไว้เพื่อขายแล้ว เป็นต้น แต่ในส่วนของงานกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์คาดจะเพิ่มขึ้น 15% จากอานิสงส์ยอดขายรถยนต์ที่ส่งออกไปยังสหรัฐ บวกกับการได้งานโมเดลของ MAZDA GEN7 ในช่วงปลายปี 61 และงาน Sheet ที่จะหางานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและเน้นที่มี margin สูงขึ้น
ทั้งนี้ จากการดําเนินงานของ SCAN ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมคอนเดนเซอร์ที่ใช้ในกลุ่มเครื่องปรับอากาศเพื่อใช้ทดแทนทองแดงจากราคาที่เพิ่มขึ้น แต่พบว่าทั้งยอดขายและการดำเนินงานยังไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่บริษัทดังกล่าว อาจต้องตั้งด้อยค่าเงินลงทุนในปีนี้ อย่างไรก็ดี ในส่วนของราคาหุ้น SNC ได้ปรับตัวขึ้นสะท้อนปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวแล้ว ฝ่ายวิเคราะห์จึงปรับลดคำแนะนำเป็น “ทยอยซื้อ” และปรับราคาพื้นฐานใหม่เป็น 16.90 บาท