มิติหุ้น– DMT มั่นใจผลงานปี 64 แกร่ง ปริมาณจรจาจรทางยกระดับฟื้นกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เกิน 1 แสนคันต่อวัน พร้อมผนึกพันธมิตรลุยโครงการรัฐทางหลวงพิเศษฯเพิ่ม ชูจัดเด่นกำไรสะสมบานตะไท ปัญผลแจ่ม พร้อมเข้าเทรดวันนี้(7พ.ค.)วันแรก
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMT) โดย “นายธานินทร์ พานิชชีวะ” กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้บริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของประเทศ และมีจุดแข็งความเชี่ยวชาญทางธุรกิจ รุกขยายงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมตามนโยบายการลงทุนของภาครัฐที่เปิดให้เอกชนร่วมลงทุนผ่านโครงการต่าง ๆ ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองระยะ 20 ปี (60-79) ของกรมทางหลวง
ผนึกพันธมิตรลุยโครงการใหม่
อาทิเช่น โครงการส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต-บางปะอิน (M5) ระยะทาง 18 กิโลเมตร เชื่อมต่อโดยตรงสู่ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว (M82) เส้นทางหลักสู่ภาคใต้ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับทางยกระดับดอนเมืองที่เป็นเส้นทางหลักสู่ภาคเหนือ เป็นต้น รวมถึงแผนขยายขอบเขตการให้บริการไปสู่ธุรกิจหรือโครงการอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ทางด่วนและทางพิเศษ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเข้ารับสัมปทาน เช่น โครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในจุดพักริมทางหลวงและทางหลวงสัมปทาน (Rest Area) เป็นต้น
มั่นใจผลงานปี 64 เติบโต
พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานในปี 64 จะเติบโตกว่าปีก่อน โดยผลการดำเนินงานปี 63 บริษัทมีกำไรสุทธิ 791.43 ล้านบาท และมีรายได้ที่ 2,046.09 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าปริมาณจราจรบนทางยกระดับในปีนี้จะฟื้นตัวกลับมาดีขึ้นกว่าปริมาณจราจรบนทางยกระดับในปี 63 ซึ่งอยู่ที่ 95,283 คันต่อวัน หรือเกินระดับ 1แสนคันต่อวันเช่นปี 62(147,290 คันต่อวัน) เนื่องจากภาครัฐมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการโรค COVID-19 ประกอบกับประเทศไทยและนานาประเทศได้เริ่ม ฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 อย่างต่อเนื่องและแพร่หลาย
โชว์EBITDAแกร่ง 70%
ทั้งนี้บริษัทได้ออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 140 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 11.85 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 16 บาท ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งแรกในนี้(7พ.ค.64)นี้ ยังมีความมั่นใจจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิ และและที่สำคัญมีกำไรสะสมสูงถึงกว่า 2,194 ล้านบาท และมีกระแสเงินสดสุทธิ 1,188.67 ลบ.และที่สำคัญบริษัทยังรักษา EBITDA Marginสูงเฉลี่ยไม่น้อยกว่าที่ระดับ 70 % ทีเดียว
www.mitihoon.com