SSP อนุมัติปันผลเป็นหุ้น10:1-เงินสด 0.011111 บาท/หุ้น

700

มิติหุ้น – ผู้ถือหุ้น SSP ยกมืออนุมัติจ่ายปันผลงวดปี 63 เป็นหุ้นในอัตรา 10 หุ้นสามัญต่อ 1 หุ้นปันผล และจ่ายเป็นเงินสดในอัตรา 0.011111 บาท/หุ้น กำหนดขึ้น XD วันที่ 13 พ.ค. เตรียมรับทรัพย์ 28 พ.ค. 64 พร้อมแจกวอแรนต์ SSP-W1 และ SSP-W2 ฟรี  ฟากผู้บริหาร “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” มั่นใจปี 64 กำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศทะลุ 200 MW ตามแผน โค้งหลังจ่อ COD โซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น และวินด์ฟาร์มเวียดนาม ตามนัด หนุนผลงานนิวไฮต่อเนื่อง

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 อนุมัติจ่ายปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2563 เป็นหุ้นในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.011111 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 กำหนดจ่ายวันที่ 28 พ.ค.2564

นอกจากนี้ ยังอนุมัติแจกวอแรนต์ (SSP-W1) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 10 หุ้นสามัญต่อ 1 หน่วย มีอายุ 8 เดือน อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วย ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 12.00 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 14 มิถุนายน 2564

และแจกวอร์แรนต์ (SSP-W2) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญต่อ 1 หน่วย มีอายุ 3 ปี 11 เดือน อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วย ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 20 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 14 มิถุนายน 2564

อีกทั้ง พิจารณาอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทอีกจำนวน 447,170,000 บาท จากทุนจดทะเบียน 922,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 1,369,170,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 447,170,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดย 1.จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัทไม่เกิน 92,200,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท เพื่อรองรับการจ่ายปันผล 2.จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัทไม่เกิน 101,420,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ SSP-W1 และ  3.จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัทไม่เกิน 253,550,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯเตรียมขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้า 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 1 ในประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์  (COD) ในไตรมาส 3 ปี 2564 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ จะเริ่ม COD ในไตรมาส 4 ปี 2564 ผลักดันกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเป็น 200 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 143 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าขยายการลงทุน Solar Rooftop ในประเทศอินโดนีเซีย โดยคาดว่าภายในปี 2565 จะ  COD ประมาณ 15 MW  ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 2 ในประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 17 เมกะวัตต์ ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาโครงการ และคาดว่าจะ COD ได้ในปี 2566 โดยบริษัทฯวางเป้าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ จากพลังงานลมเวียดนามเฟส 2 และโรงไฟฟ้าอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างศึกษาและพิจารณา เพื่อเข้าลงทุน รองรับแผนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต

www.mitihoon.com