YLGเผยแนวโน้มทองเดือนพ.ค.สดใสหลังทะลุ 1,800 แต่ระยะสั้นยังผันผวน แนะหาจังหวะซื้อสะสมเมื่อราคาย่อ

218

มิติหุ้น – วายแอลจี เผย ทิศทางการเคลื่อนไหวทองคำในเดือน พ.ค.สดใสมีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,782-1,739 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวต้าน 1,854-1,880  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ คาดระยะสั้นอาจเผชิญแรงขายทำกำไรบ้างหลังจากปรับขึ้นแรง แนะหาโอกาสเข้าซื้อ มองภาพใหญ่ระยะยาวยังเป็นขาขึ้น เหตุยังมีปัจจัยหนุนจากเฟดที่ผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อ และรัฐบาลสหรัฐที่ยังอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง มองกรอบทั้งปีไว้ที่ 1,960-1,676 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 29,000-24,800 บาทต่อบาททองคำ

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่าเดือนเมษายนที่ผ่านมาถือว่าเป็นเดือนแรกนับจากต้นปีที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น ก่อนที่เดือนพ.ค.ราคาทองคำจะพยายามทดสอบ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์หลายรอบก่อนมีแรงเทขายทำกำไรออกมา ซึ่งการโดนเทขายในช่วงก่อนหน้ามาจากทั้งปัจจัยทางเทคนิค และการส่งสัญญาณของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐที่ออกมาส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จึงทำให้ทองคำเกิดการปรับฐาน อย่างไรก็ดี จะเห็นว่าแรงขายที่ผ่านไม่ถือว่าเป็นการปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ภาพรวมยังทรงตัวได้ดี  จนกระทั้งล่าสุดราคาทะลุผ่าน 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้ในที่สุ

ทำให้วายแอลจีมองกรอบการเคลื่อนไหวของทองคำในเดือนพ.ค. โดยมีแนวรับบริเวณ 1,782-1,739 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์  ส่วนแนวต้านมองที่ 1,854-1,880  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์  หรือคิดเป็นเงินบาทที่กรอบแนวรับล่างสุด 25,600 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้านที่ 27,500 บาทต่อบาททองคำ  ประเมินว่า  แม้ในระยะสั้นทองคำอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง  แต่มองว่าการปรับตัวลงจะเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ เพราะยังมีจังหวะดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านได้อีก อย่างไรก็ดี  ไม่แนะนำให้นักลงทุนซื้อไล่ราคา และเน้นลงทุนระยะสั้นในกรอบ  พร้อมตั้งตัดขาดทุนทุกครั้ง เหตุเพราะภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคายังคงมีความผันผวน

 แต่ในระยะยาว  วายแอลจียังมองว่าราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น เพราะแม้กระทรวงการคลังสหรัฐจะส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ยังคงมีมุมมองว่าอัตราเงินเฟ้อยังไม่ได้ปรับขึ้นไปในระดับสูงและจะยังคงอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผน ปัจจัยเหล่านี้จึงยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนทองคำในระยะยาว โดยวายแอลจีให้กรอบทั้งปีไว้ที่ 1,960-1,676 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 29,000-24,800 บาทต่อบาททองคำ