5ข่าวเด่นมิติหุ้นเช้านี้

159

#1. “ออมสิน” ช่วยลูกหนี้สู้ภัย COVID-19 ระลอกใหม่ ออกมาตรการสมัครใจพักชำระเงินต้น ผ่าน MyMo เริ่ม 11 พ.ค. 64 นี้ คาดช่วยลูกหนี้ลดภาระรายเดือนกว่า 1 ล้านราย ทั้งนี้ ลูกค้าสินเชื่อของธนาคารออมสินสามารถแจ้งความประสงค์ขอเข้ามาตรการพักชำระเงินต้นเป็นการชั่วคราว และเลือกแผนการชำระหนี้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน MyMo ได้ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม –  30 มิถุนายน 2564 สำหรับลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจที่มีวงเงินกู้เกิน 10 ล้านบาท สามารถติดต่อดำเนินการที่สาขาของธนาคาร สอบถามละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ธนาคารออมสิน โทร. 1115

#2.NWR เซ็นสัญญาก่อสร้าง “โครงการก่อสร้างทางเชื่อมต่อทางเชื่อม Skywalk ระหว่างโรงพยาบาลจุฬาภรณ์กับสถานีหลักสี่”  มูลค่ารวม 238.22 ล้านบาท แถมยังอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานอีกกว่า 3 หมื่นล. คาดหวังจะชนะงานประมูลไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งทั้งปี 64 ตั้งเป้ารับงานใหม่เข้ามาไม่ต่ำกว่า 1.6 หมื่นล. หนุน Backlogพุ่ง 3.1 หมื่นล. มั่นใจทั้งปี 64 รายได้ทำนิวไฮที่ 1.3 หมื่นล. หรือเติบโต 30% จากปีก่อน

#3. MCS กำไรสุทธิไตรมาส1/64 ที่ 228.10 ลบ.เพิมขึ้น 39.42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้อยู่ที่ 1,172.34 ลบ.เพิ่มขึ้น 14.39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากไตรมาสนี้บริษัทมีการส่งมอบงานให้ลูกค้าราว 13,009 ตัน โบรกประเมิน กำไร MCS ไตรมาส1เติบโตสดใสจากจากน้ำหนักส่งมอบโครงการใหญ่มาร์จิ้นสูงกว่า 8.6 พันตัน จากน้ำหนักส่งมอบทั้งหมด 1.3 หมื่นตัน ช่วยหนุน Gross Margin ขยายตัวขึ้นเป็น 40.2%และ ดร. ไนยวน ชิ CEO จะไปญี่ปุ่นช่วงต้นเดือน พ.ค. 2564 เชื่อว่าการเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้เพื่อไปเซ็นสัญญา 2 โครงการ รวม 4.5 หมื่นตันและเยี่ยมชมลูกค้ารายอื่นๆ ทำให้คาดหวังได้ว่า MCS จะได้รับงานใหม่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง จึงแนะนำ “ซื้อ” เป้า 21.90บ./หุ้น

#4.TWZ  หลังจากผนึกความร่วมมือกับผู้ผลิตสินค้าสแน็คชั้นนำอย่าง “เถ้าแก่น้อย” ล่าสุด รุกจับมือผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเบเกอรี่และเครื่องดื่มแบรนด์ดัง “กาโตว์ เฮ้าส์” ร่วมกันผลิตสินค้ากัญชงกัญชาผ่าน “กัญช์ยารักษ์” ที่ TWZ ถือหุ้นในสัดส่วน 51% เผยจุดเด่น “กาโตว์ เฮ้าส์” ผู้ผลิตเบเกอรี่และเค้กนมสดสูตรไต้หวันมามากกว่า 30 ปี และมีสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวมมากกว่า 30 แห่ง ทำให้สามารถวางขายสินค้าหน้าร้าน พร้อมรับรู้รายได้ได้ทันที

#5.TIDLOR บริษัทวางเป้าหมายขยายสินเชื่อปีละ 15-20% และขยายยอดพรีเมียมประกันภัยปีละ 40% ใน 3 ปีข้างหน้า จึงประมาณการว่ารายได้ดอกเบี้ยรับเติบโตเฉลี่ย +19% ต่อปี, รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตเฉลี่ย +28% ต่อปีและค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้ลดลง ยังผลให้คาดการณ์กำไรสุทธิจะเติบโตเฉลี่ย +29% ต่อปีในช่วงปี 64F-66F

ด้านโบรกประเมินสำหรับปี 64F คาดการณ์กำไรสุทธิขยายตัว +32%YoY หนุนโดยรายได้ขยายตัว, ต้นทุนการเงินที่อยู่ในระดับต่ำแม้ว่าจะเพิ่มขึ้นก็ตาม และสัดส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้ (C/I ratio) ลดลง แต่ EPS growth ปี 64F จะอยู่ที่ +22YoY เพราะมี Dilution effect จากการเพิ่มทุน IPO จึงแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 56 บาท อิงกับ P/BV ปี 64F ที่ 5.0 เท่า

www.mitihoon.com