มิติหุ้น – บมจ. วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์ หรือ VL ส่งสัญญาณไตรมาส 2/64 เตรียมโลดแล่น หลังเรือใหม่ 2,800 DTW ที่เข้ามาในเดือนเม.ย.เริ่มให้บริการขนส่ง บวกลูกค้ากลับมาผลิตเต็มกำลังหลังหยุดซ่อมบำรุงในไตรมาสแรกที่ผ่านมา พร้อมส่งซิกลุยเจรจาลูกค้าใหม่ คาดได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 2 นี้ ด้าน CEO “ชุติภา กลิ่นสุวรรณ” จ่อปรับกลยุทธ์รับเรือใหม่เพิ่มปลายปีนี้ รองรับการให้บริการขนส่งกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการขยายเส้นทางไปยังจีน –อินเดีย หนุนรายได้โตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 15-20% ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาสแรก มีกำไรสุทธิ 5.6 ล้านบาท และรายได้รวม 142 ล้านบาท
นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ VL ดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการขนส่งปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ ทางทะเลทั้งในประเทศและระดับภูมิภาคเอเชีย ให้แก่ผู้ประกอบการค้าน้ำมันเป็นหลัก เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 2/2564 ว่า อุตสาหกรรมการขนส่งทางเรือโดยเฉพาะการขนส่งในประเทศมีสัญญาณฟื้นตัวโดยกลุ่มลูกค้ากลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้งหลังจากหยุดซ่อมบำรุงในไตรมาส 1/2564
อีกทั้งในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เรือใหม่ VL.23 ขนาด 2,800 เดทเวทตัน (DTW) ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้เริ่มให้บริการส่งปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ทางทะเลในเชิงพาณิชย์ได้ ส่งผลให้ในปีนี้ VLจะมีกองเรือทั้งหมด 13 ลำ โดยมีน้ำหนักบรรทุกเรือรวม 41,893 DWT
และจากศักยภาพรองรับการขนส่งน้ำมันทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ส่งผลให้ลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมีความต้องการใช้บริการกับบริษัทฯเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุดบริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหม่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปดีลดังกล่าวได้ภายในไตรมาส 2/2564นี้ และหากดีลดังกล่าวสำเร็จจะส่งผลให้บริษัทฯจะมีดีมานด์การขนส่งเพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์ รับเรือเพิ่มอีก 1 ลำในช่วงปลายปี 2564 ขนาด 10,000-12,000 DWT ซึ่งเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้จากเดิม ส่งผลให้ปีนี้น้ำหนักบรรทุกเรือรวม 50,801 DWT ซึ่งสามารถรองรับดีมานด์การขนส่งในการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจสูง โดยจะมีการขยายเส้นทางการเดินเรือใหม่ ไปยังประเทศจีน และอินเดีย หนุนรายได้โตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 15-20%
ส่วนผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2564 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 นั้น บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 5.6 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 29.5 และรายได้รวม 142 ล้านบาท ลดลง 40.2 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนเที่ยวการขนส่งลดลง จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะรายได้จากการขนส่งนำมันในประเทศลดลง จากกลุ่มค้ากลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเลียมปรับกลยุทธ์หยุดซ่อมบำรุงในบางส่วนทำให้การขนส่งลดลงไปด้วย ทั้งนี้แม้ว่าสัดส่วนรายได้จะปรับตัวลดลง แต่บริษัทฯยังคงรักษาการทำกำไรไว้ได้
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินผลการดำเนินงานของ VL ในไตรมาส 2/2564 จะเป็นไตรมาสสำคัญของ VLเพราะเรือทั้งหมด 12 ลำ และเรือสั่งต่อใหม่ 1 ลำจากเกาหลีใต้ขนาด 2,800 เดทเวทตัน จะเริ่มบริการ ดังนั้นกำไรไตรมาส 2/64 จะโดดเด่นมาก เมื่อเทียบทั้ง QoQ และ YoY ดังนั้นปรับประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้นเล็กน้อย 5% เป็น 98 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 13.8% YoY
www.mitihoon.com