เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” ผนึกกำลัง 6 พันธมิตรเสริม QUALITY LIVING INNOVATION พลิกโฉมคอนโดคุณภาพยุค Next Normal รับเทรนด์ที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต

191

มิติหุ้น – “เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” ตอกย้ำวิสัยทัศน์ Lifescape Developer มุ่งหน้าพลิกโฉมคอนโดฯ ยกระดับคุณภาพชีวิตสู่ Next Normal เสริม Living Innovation ครบทั้งด้านสุขภาพ ความสะดวกสบาย และสิ่งแวดล้อม จับมือ พันธมิตร ได้แก่ TOA, Hafele, Hitachi Elevator, Panasonic, Trane และ Light-trio Home Automation โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีอันทันสมัย มาช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า อาทิ ระบบ Touchless Button ของลิฟต์ ระบบดักจับไวรัสในอากาศ และระบบ Smart Home Automation ด้วยการเชื่อมต่อผ่าน IoT เป็นต้น นำร่องโครงการ เมทริส พัฒนาการ-เอกมัย เตรียมพร้อมเข้าสู่เทรนด์ที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต 

นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซูรี กล่าวว่า “สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 สร้างความกังวลใจให้กับผู้บริโภคในทุกย่างก้าวของชีวิต รวมไปถึงพื้นที่อยู่อาศัยภายในคอนโดมิเนียม ดังนั้นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน ควบคู่กับการรองรับกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจที่มุ่งสู่การเป็นผู้พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิต หรือ Lifescape Developer บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความกังวลของผู้บริโภค จึงเร่งพัฒนา Living Innovation เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงในยุค Next Normal

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในรูปแบบเดิมอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอีกต่อไป เราจึงพยายามเฟ้นหานวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะเข้ามาดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยในทุกตารางเมตรของโครงการ” นางสาวเพชรลดา กล่าว

ล่าสุด บริษัทฯ ได้พัฒนา Quality Living Innovations สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม พร้อมร่วมกับ
พันธมิตรแบรนด์ดัง เสริมการดูแลให้ครอบคลุมทั้ง ด้าน ได้แก่ 

1. ด้านสุขภาพและความปลอดภัย เลือกใช้เทคโนโลยีไร้สัมผัส (Touchless Button) ในการใช้ลิฟต์ดย Hitachi Elevator ได้เชื่อม Touchless Button กับระบบลิฟต์ Hitachi ช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสร่วมกับผู้อื่น, บริหารจัดการสิ่งของและอาหารที่มาส่งที่โครงการ ด้วยการจัดเตรียมห้องรับพัสดุ (Parcel Room) แยกจากส่วนของล็อบบี้เพื่อลดการเข้าสู่ภายในอาคารของบุคคลภายนอก และตู้เก็บของอัจฉริยะ (Smart Locker)ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศที่มีเทคโนโลยี nanoe™ X จาก Panasonic ปล่อยอนุภาคไฟฟ้าที่ช่วยยับยั้งไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา และสารก่อภูมิแพ้ภายในพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องปรับอากาศ Trane ที่มีนวัตกรรมฟอกอากาศแบบ Bio Filter ที่ยับยั้งแบคทีเรียและรองรับ PM 2.5 Filter สำหรับกรองฝุ่นอนุภาคเล็กระดับ PM 2.5 ไมครอนภายในห้องพัก 

2. ด้านความสะดวกสบาย ใช้เทคโนโลยี IoT (Internet of Things) เชื่อมต่อการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในที่อยู่อาศัยผ่าน Light-trio Smart Home Automation ซึ่งใช้คลื่นสัญญาณคุณภาพ TUYA ช่วยให้สามารถควบคุมการทำงานได้จากระยะไกลผ่านแอปพลิเคชันและรีโมท Infrared เสริมความปลอดภัยด้วยกล้องวงจรปิดความละเอียดสูง 1080P ปรับมุมมองได้ 360 องศา และ Hafele Smart Digital Door Lock ที่มี Smart Sensor สัญญาณเตือนกรณีมีการงัดแงะตลอดเวลา 24 ชั่วโมง  

3. ด้านสิ่งแวดล้อม คัดสรรวัสดุและอุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ สีทาอาคารอะคริลิกจาก TOA ที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนจากรังสี UV และ Infrared ช่วยลดอุณหภูมิในอาคารได้มากกว่า 12 องศาเซลเซียส และประหยัดพลังงานมากกว่า 38% และ Ultra Low VOCs ปลอดภัยจากสารก่อมะเร็ง ผ่านมาตรฐานอาคารเขียวไทย (TREES) และมาตรฐาน LEED จากสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยอุปกรณ์คุณภาพประหยัดพลังงานมาตรฐานเยอรมนีจาก Hafele อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ที่สวยงามผสานความคลาสสิคและทันสมัยเข้าด้วยกัน ทั้งยังคงทนถาวร และประหยัดพลังงาน ตามแนวคิด “Complete Building Solutions” 

“เราได้นำร่องใช้ Quality Living Innovation ดังกล่าวในโครงการเมทริส พัฒนาการ-เอกมัย (Metris Pattanakarn – Ekkamai) เป็นแห่งแรก และเราจะไม่หยุดยั้งการพัฒนาโครงการ พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อก้าวให้ทันเทรนด์ที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต” นางสาวเพชรลดา กล่าว 

www.mitihoon.com