มิติหุ้น – “เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” ตอกย้ำวิสัยทัศน์ Lifescape Developer มุ่งหน้าพลิกโฉมคอนโดฯ ยกระดับคุณภาพชีวิตสู่ Next Normal เสริม Living Innovation ครบทั้งด้านสุขภาพ ความสะดวกสบาย และสิ่งแวดล้อม จับมือ 6 พันธมิตร ได้แก่ TOA, Hafele, Hitachi Elevator, Panasonic, Trane และ Light-trio Home Automation โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีอันทันสมัย มาช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า อาทิ ระบบ Touchless Button ของลิฟต์ ระบบดักจับไวรัสในอากาศ และระบบ Smart Home Automation ด้วยการเชื่อมต่อผ่าน IoT เป็นต้น นำร่องโครงการ ‘เมทริส พัฒนาการ-เอกมัย’ เตรียมพร้อมเข้าสู่เทรนด์ที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต
นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซูรี กล่าวว่า “สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 สร้างความกังวลใจให้กับผู้บริโภคในทุกย่างก้าวของชีวิต รวมไปถึงพื้นที่อยู่อาศัยภายในคอนโดมิเนียม ดังนั้นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน ควบคู่กับการรองรับกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจที่มุ่งสู่การเป็นผู้พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิต หรือ Lifescape Developer บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความกังวลของผู้บริโภค จึงเร่งพัฒนา Living Innovation เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงในยุค Next Normal
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในรูปแบบเดิมอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอีกต่อไป เราจึงพยายามเฟ้นหานวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะเข้ามาดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยในทุกตารางเมตรของโครงการ” นางสาวเพชรลดา กล่าว
ล่าสุด บริษัทฯ ได้พัฒนา Quality Living Innovations สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม พร้อมร่วมกับ
6 พันธมิตรแบรนด์ดัง เสริมการดูแลให้ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน ได้แก่
1. ด้านสุขภาพและความปลอดภัย เลือกใช้เทคโนโลยีไร้สัมผัส (Touchless Button) ในการใช้ลิฟต์โดย Hitachi Elevator ได้เชื่อม Touchless Button กับระบบลิฟต์ Hitachi ช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสร่วมกับผู้อื่น, บริหารจัดการสิ่งของและอาหารที่มาส่งที่โครงการ ด้วยการจัดเตรียมห้องรับพัสดุ (Parcel Room) แยกจากส่วนของล็อบบี้เพื่อลดการเข้าสู่ภายในอาคารของบุคคลภายนอก และตู้เก็บของอัจฉริยะ (Smart Locker), ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศที่มีเทคโนโลยี nanoe™ X จาก Panasonic ปล่อยอนุภาคไฟฟ้าที่ช่วยยับยั้งไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา และสารก่อภูมิแพ้ภายในพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องปรับอากาศ Trane ที่มีนวัตกรรมฟอกอากาศแบบ Bio Filter ที่ยับยั้งแบคทีเรียและรองรับ PM 2.5 Filter สำหรับกรองฝุ่นอนุภาคเล็กระดับ PM 2.5 ไมครอนภายในห้องพัก
2. ด้านความสะดวกสบาย ใช้เทคโนโลยี IoT (Internet of Things) เชื่อมต่อการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในที่อยู่อาศัยผ่าน Light-trio Smart Home Automation ซึ่งใช้คลื่นสัญญาณคุณภาพ TUYA ช่วยให้สามารถควบคุมการทำงานได้จากระยะไกลผ่านแอปพลิเคชันและรีโมท Infrared เสริมความปลอดภัยด้วยกล้องวงจรปิดความละเอียดสูง 1080P ปรับมุมมองได้ 360 องศา และ Hafele Smart Digital Door Lock ที่มี Smart Sensor สัญญาณเตือนกรณีมีการงัดแงะตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
3. ด้านสิ่งแวดล้อม คัดสรรวัสดุและอุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ สีทาอาคารอะคริลิกจาก TOA ที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนจากรังสี UV และ Infrared ช่วยลดอุณหภูมิในอาคารได้มากกว่า 12 องศาเซลเซียส และประหยัดพลังงานมากกว่า 38% และ Ultra Low VOCs ปลอดภัยจากสารก่อมะเร็ง ผ่านมาตรฐานอาคารเขียวไทย (TREES) และมาตรฐาน LEED จากสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยอุปกรณ์คุณภาพประหยัดพลังงานมาตรฐานเยอรมนีจาก Hafele อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ที่สวยงามผสานความคลาสสิคและทันสมัยเข้าด้วยกัน ทั้งยังคงทนถาวร และประหยัดพลังงาน ตามแนวคิด “Complete Building Solutions”
“เราได้นำร่องใช้ Quality Living Innovation ดังกล่าวในโครงการเมทริส พัฒนาการ-เอกมัย (Metris Pattanakarn – Ekkamai) เป็นแห่งแรก และเราจะไม่หยุดยั้งการพัฒนาโครงการ พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อก้าวให้ทันเทรนด์ที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต” นางสาวเพชรลดา กล่าว
www.mitihoon.com