ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) (KEX) ปิดสมุดทะเบียนล่าสุด เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 64 พบว่า มีบริษัทกัลฟ์ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด (ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ GULF สัดส่วน 4.70% ) เข้าถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 จำนวน 48,723,200 หุ้น สัดส่วน 2.80 % ซึ่งเป็นที่จับตาว่าการลงทุนครั้งนี้ จะเพื่อบริหารเงินสด เช่นเดียวกับที่เคยอ้าง กรณี GULF เข้าถือหุ้น INTUCH หรือไม่นั้น ด้านแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมประเมินว่า หากดูจากโมเดลธุรกิจที่ GULF และคุณสารัชถ์ รัตนาวะดี ได้ขยายลงทุนในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเพื่อการบริหารเงินสด และก็เพื่อการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจหลักปัจจุบันของ GULF รวมถึงเพิ่อหวังต่อยอดจากธุรกิจเดิมที่มีอยู่
ซึ่งก่อนหน้านี้ธุรกิจที่ GULF กระจายเข้าไปลงทุน คือ โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) หรือที่เรียกว่า มอเตอร์เวย์ “บางปะอิน-โคราช”
เปิด 5 ธุรกิจ GULF
ทำให้โครงการธุรกิจของ GULF ในปัจจุบัน มีการกระจายในหลากหลายธุรกิจดังนี้ ธุรกิจด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งครอบคลุมถึงการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำเย็นและธุรกิจอื่นๆ 2.ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน 3.ธุรกิจพลังงานน้ำ 4.ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค และ 5.ธุรกิจก๊าซ
GULFประกาศชัดพร้อมลงทุนกับธุรกิจที่มีศักยภาพทั่วโลก
ซึ่งใน 56-1 นั้น GULF ชี้แจงรายละเอียดถึงความเสี่ยงต่างๆของธุรกิจ ถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในภาคพลังงาน ของโลก เช่นกันเน้นไปยังพลังงานยั่งยืน สร้างโอกาสให้กับบริษัทฯในการขยายธุรกิจจากการลงทุนในธุรกิจอื่นนอกเหนือจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ และการลงทุนในต่างประเทศ รวมถึงแนวโน้มมุ่งไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมพลังงาน อาจส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงในด้านนโยบายและความต้องการของผู้บริโภค ที่อาจกระทบยังผลตอบแทนทางการเงินของโครงการ ณ ปัจจุบันและโอกาสในอนาคต GULF จึงมีแนวทางการลงทุนกับหุ้นส่วนทางธุรกิจที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะบริษัทที่เป็นผู้นำระดับโลก และหุ้นส่วนระดับท้องถิ่นที่มีประสบการณ์และความชำนาญ รวมถึงการศึกษาเทคโนโลยีและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ รวมถึงบริการสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าและธุรกิจรูปแบบใหม่
THCOM-KEX มีจุดเด่นด้านเครือขายสาขา
ซึ่งทั้ง THCOM และ KEX ก็มีโอกาสที่จะช่วยสามารถตอบโจทย์การขยับตัวของ GULF ในอนาคตได้ โดย THCOM มีเครือข่าย 5G ผ่าน AIS ซึ่งเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจนี้ ซึ่งมีโอกาสช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจของ GULF ในอนาคต รวมถึงยังสามารถเข้าถึงประชาชนโดยตรง ด้วย ส่วน KEX ก็จัดว่าเป็นอีกธุรกิจที่เป็นผู้นำในธุรกิจขนส่งพัสดุด่วนในประเทศ และทั้ง 2 ธุรกิจมีความเด่อนเหมือนกันคือมีเครือข่ายสาขาทั่วประเทศอีกด้วย
www.mitihoon.com