มิติหุ้น – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน BGJF Virtual Trade Fair (The 66th Special Edition) งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในรูปแบบออนไลน์เต็มรูปแบบที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายน 2564 ผ่านทางเว็บไซต์ www.bgjf-vtf.com
งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ Bangkok Gems and Jewelry Fair หรือ BGJF เป็นเวทีการค้าอัญมณีและเครื่องประดับระดับสากลที่สำคัญติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มาอย่างต่อเนื่องถึง 65 ครั้ง แต่เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ในปี 2563 ที่ผ่านมา ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นการจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง และในปี 2564 นี้ ก็ได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และมั่นใจว่าการจัดงานจะประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากทั่วโลกอีกครั้ง
นายจุรินทร์ เปิดเผยว่า ปี 2564 เศรษฐกิจไทยและทั่วโลกยังต้องเผชิญกับความท้าทาย โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงขยายเป็นวงกว้างและส่งผล กระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก แต่กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้หยุดนิ่ง ได้มีการปรับแผนการทำงาน เพื่อส่งเสริมและผลักดันการส่งออกอย่างต่อเนื่อง เพราะการส่งออกเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยได้ทำงานหนักร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิดผ่านกลไกคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ที่เป็นเวทีการหารือและการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา และการร่วมกันสร้างรายได้เข้าประเทศ และยังได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกจากระบบออฟไลน์เป็นระบบออนไลน์ รวมทั้งใช้รูปแบบไฮบริด ซึ่งเป็นการผสมผสานทั้งออฟไลน์และออนไลน์เข้ามาช่วย โดยเป็นไปตามนโยบาย 14 แผนงานของกระทรวงพาณิชย์ที่ได้ดำเนินการในปี 2564
สำหรับการสนับสนุนอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ กระทรวงพาณิชย์ได้สร้างโอกาสทางการค้า ด้วยการปรับกิจกรรมการส่งเสริมการส่งออก โดยได้มีการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ให้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ประกอบการ และนักธุรกิจในอุตสาหกรรมมากขึ้นและง่ายขึ้น โดยรวบรวมสินค้าจากผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศที่ไม่สามารถเข้าร่วมงานได้ตามปกติ จำนวนกว่า 600 บริษัท มาไว้บนแพลตฟอร์มเดียวแบบครบวงจร ผู้ที่สนใจสามารถค้นหาสินค้าและทำการนัดหมายเพื่อเจรจาการค้าผ่านเว็บไซต์ของงานด้วยตนเอง หรือผ่านสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั่วโลก โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ คาดว่าจะก่อให้เกิดการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ไม่น้อยกว่า 450 คู่ และเกิดมูลค่าการสั่งซื้อขายไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
นอกจากกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์แล้วในช่วงการจัดงานยังมีกิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ กิจกรรมสัมมนาออนไลน์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทรนด์การตลาด ได้แก่ สัมมนาการหา pain point เพื่อการสร้างธุรกิจที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง และการเขียนแผนธุรกิจ และเวิร์คช็อปโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT สัมมนาเรื่องมุกชนิดต่างๆ และการตรวจวิเคราะห์อัญมณีมุก โดยสถาบันอัญมณีศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา หรือ GIA รวมถึงกิจกรรมไลฟ์สด ที่ให้ทั้งความรู้ ความเพลิดเพลินและสิทธิประโยชน์โดยอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง อาทิ คุณจีจี้ Fiercebook อินฟลูเอนเซอร์ ด้านสินค้าลักชัวรี่ และอาจารย์เป็นหนึ่ง ซินแสชื่อดัง ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูดวงชะตาและฮวงจุ้ย โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อชมสินค้าและกิจกรรมต่างๆ ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
สำหรับอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เป็นอุตสาหกรรมที่ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ก่อให้เกิดการจ้างงานกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ และสร้างรายจากการส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนล้านบาท โดยภาคการส่งออกมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่ออุตสาหกรรมอัญมณี และเครื่องประดับของไทย เนื่องจากร้อยละ 80 ของการผลิตเป็นการผลิต เพื่อการส่งออก นอกจากนี้ ไทยยังเป็นที่ยอมรับในฐานะ หนึ่งในศูนย์กลางการค้า และซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมอัญมณี และเครื่องประดับที่สำคัญของโลกจากจุดเด่นในด้านฝีมือการปรับปรุงคุณภาพพลอยและการเจียระไน
ในปี 2563 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 แสนล้านบาท และได้ประเมินการส่งออกในปี 2564 ว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ถึง 5% จากปี 2563 เนื่องจากเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจคู่ค้า มีการฟื้นตัวดีขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่หลายๆ ประเทศได้นำออกมาใช้ และยังมีการเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการผ่อนคลายมากขึ้น