วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

157

 

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี จากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวหลังเปิดเศรษฐกิจ

+  ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นในยุโรป หลังผู้คนเริ่มกลับมาทำกิจกรรมการเดินทางและพักผ่อนอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเยอรมัน ที่แสดงตัวเลขการค้าปลีกพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 30 ปี โดยนักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าเศรษฐกิจของเยอรมันกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากการปิดล็อกดาวน์ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของเยอรมันเติบโต 1.3% ในไตรมาสที่สองและ 3.6% ในไตรมาสถัดไป

+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 มิ.ย. 64 ปรับตัวลดลง 7.6 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 459.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน มี.ค. 63

+/-  ตลาดยังคงจับตาการการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 1 ก.ค. 64 โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า โอเปกพลัสจะสามารถเริ่มปรับเพิ่มกำลังการผลิตในเดือน ส.ค. โดยไม่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

ราคาน้ำมันเบนซิน-ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ณ สิ้นสุดสัปดาห์ที่ 18 มิ.ย. 2564 ปรับลด 2.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น  833,000 บาร์เรล

ราคาน้ำมันดีเซล-ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปทานที่สูงขึ้นจากการเพิ่มกำลังการผลิตของจีน ในขณะเดียวกันความต้องการใช้น้ำมันดีเซลของญี่ปุ่นลดลง เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางหลังโควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง

 

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์