TMILL ขึ้นแท่นหุ้นยั่งยืน-ผลงานโตแกร่ง

334

 

มิติหุ้น-บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL โรงงานโม่แป้งสาลีรายใหญ่และมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในประเทศ ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน จากการประเมินบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ประจำปี 2564 จำนวนทั้งสิ้น 824 บริษัท ของสถาบันไทยพัฒน์

นางแววตา กุลโชตธาดา รองผู้อํานวยการฝ่ายการเงินและบัญชี   บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จํากัด (มหาชน)  TMILL  เปิดเผยว่า  สถาบันไทยพัฒน์ ประกาศให้ บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัน (มหาชน) หรือ TMILL  ติดอันดับ ESG100 ประจำปี 2564 ด้วยการคัดเลือกจาก 824 หลักทรัพย์จดทะเบียนให้เป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล (ESG) ให้เข้าอยู่ใน Universe ของกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ประจำปี พ.ศ.2564 นี้   และยังเป็นบริษัทที่อยู่ในทำเนียบ ESG100 ต่อเนื่อง 3 ปีติดต่อกัน (2562-2564)

อนึ่ง สถาบันไทยพัฒน์ ได้พัฒนาฐานข้อมูลความยั่งยืนของธุรกิจในประเทศไทย ด้วยการประเมินข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ของบริษัทจดทะเบียน โดยริเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2558 เป็นปีแรก และดำเนินต่อเนื่องมาเป็นปีที่เจ็ด ในปีนี้

สำหรับการประเมินในปี พ.ศ.2564 ครอบคลุม 824 หลักทรัพย์ (ไม่รวมหลักทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟู) รวมทั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โดยอ้างอิงจากเอกสารรายงานที่บริษัทเผยแพร่ไว้ต่อสาธารณะในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) รวมทั้งในรายงานประจำปี รายงานแห่งความยั่งยืน และข้อมูลผลการดำเนินงานที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาความยั่งยืนของหน่วยงานที่ออกหลักทรัพย์/กองทุน จากแหล่งข้อมูล 6 แหล่ง รวมจำนวนกว่า 15,260 จุดข้อมูลสถาบันไทยพัฒน์

ทั้งนี้การที่ TMILL   ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100   สะท้อนถึงการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และหลักบรรษัทภิบาล (Corporate Governance) หรือ ESG และเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินธุรกิจเพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นยั่งยืนที่สามารถสร้างผลตอบ แทนในระยะยาว

ส่วนทิศทางธุรกิจปี 64 มั่นใจรายได้รวมจะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน และบริษัทมีโอกาสปรับเพิ่มปริมาณการขายขึ้นเป็น 10%จากเดิม 5% และเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 85% จากเดิมที่ 80% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำลังการผลิตที่ 75.39% ของกำลังการผลิตทั้งหมด

เนื่องจากคาดหวังกำลังซื้อในประเทศจะกลับมาเติบโตมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากกรณีที่ภาครัฐออกมาตรการต่างๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ โครงการคนละครึ่ง, เราชนะ,เราเที่ยวด้วยกัน และม.33เรารักกัน โดยปัจจัยดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ และยังสนับสนุนให้ยอดขายของ TMILL ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย เพราะบริษัทเป็นผู้ค้นคว้าและวิจัยผลิตภัณฑ์ผลิตแป้งสาลีตามสูตรเฉพาะ (Tailor – Made Flour) และคิดค้นแป้งสาลีประเภทใหม่ๆ สูตรพิเศษ (Novel Products)สำหรับสินค้าบริโภค เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า