NDR คาดดีมานด์ยางรถมอเตอร์ไซด์ฟื้นหากมาเลเซียคลายล็อกดาวน์ เหตุซัพพลายขาดตลาด

63

มิติหุ้น – นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR เปิดเผยว่า หากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศมาเลเซียคลี่คลายและมีการประกาศกลับมาเปิดประเทศตามปกติอีกครั้ง จะส่งผลให้ซัพพลายจากผู้ผลิตยางรถจักรยานยนต์ในประเทศมาเลเซียลดลงอย่างมาก เนื่องจากในช่วงที่ประเทศมาเลเซียล็อกดาวน์นั้น โรงงานผลิตยางรถจักรยานยนต์ทุกโรงงานหยุดการผลิต ส่งผลให้ Supple ลดลง และอาจจะทำให้เกิดสภาวะสินค้าขาดตลาดได้ ดังนั้นจึงเชื่อว่าเมื่อเปิดประเทศมาเลเซีย จะช่วยสนับสนุนต่อความต้องการยางของเราที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ คาดว่าบริษัท Fung Keong Rubber Manufactory (M) Sdn. Bhd. (FKRMM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในประเทศมาเลเซีย สถานการณ์จะเริ่มกลับมาดีขึ้นในไตรมาส 3/2564 นี้ และจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกที่สนับสนุนให้ภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯ เป็นไปเป้าหมายที่วางไว้ โดยบริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้รวมในปี 2564 จะเติบโต 15% จากปีก่อน แบ่งเป็นรายได้ในประเทศ 40% และต่างประเทศ 60% โดยตลาดต่างประเทศประกอบด้วย มาเลเซีย, พม่า, ลาว, กัมพูชา ฟิลิปปินส์และเวียดนาม เป็นต้น

นายชัยสิทธิ์ กล่าวว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อย ได้เตรียมความพร้อม และยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างใกล้ชิดทั้งในประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านทางออนไลน์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และมุ่งเน้นการควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

“ขณะนี้รัฐบาลมาเลเซียขยายเวลาล็อกดาวน์ทั้งประเทศ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ออกไปจากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 28 มิถุนายน 2564 นั้น ซึ่งทางเรามีความเชื่อมั่นว่าหากรัฐบาลมาเลเซียประกาศเปิดประเทศอีกครั้ง จะสนับสนุนต่อดีมานด์ที่จะกลับมาสูงขึ้น เพราะในช่วงล็อกดาวน์ทำให้เกิดสภาวะสินค้าขาดตลาด ซึ่งคาดว่าดีมานด์ที่กลับมาจะสามารถชดเชยรายได้ให้กลับมาเป็นปกติได้ โดยเรายังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด เพื่อรับมือและปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างทันท่วงที ทั้งนี้เรายังมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย ซึ่งตลาดอื่นๆ ในต่างประเทศยังมีการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะลาวและกัมพูชา” นายชัยสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย