มิติหุ้น – ธนชาตประกันภัย กางแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตด้วยความแข็งแกร่งและยั่งยืน ตั้งเป้าปีนี้เบี้ยประกันภัยรับรวมโตเพิ่ม 5% จากปี 2560 ที่ปั๊มเบี้ยรวมพุ่งทะลุ 7,500 ล้านบาท เติบโต 16.9% จากปีก่อนหน้า
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ธนชาตประกันภัย ตั้งเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2561 นี้ จะมีการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวมเพิ่มขึ้น 5% จากปี 2560 โดย นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า สำหรับปี 2561 บริษัทได้ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวม เติบโตขึ้น 5% จากปีก่อน ที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 7,500 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 16.9% มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ในระดับ 797% และมีกำไรสุทธิ 1,051 ล้านบาท
วางโรดแมป3ปีโตทุกช่องทาง
โดยวางยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจ 3 ปี เน้นพัฒนาพร้อมกัน 3 มิติ ได้แก่ ด้านการดำเนินธุรกิจ ด้านตอบแทน สู่สังคมและด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรให้แข็งแกร่งและยั่งยืน ทั้งนี้ตลอด 20 ปีของการดำเนินธุรกิจ บริษัทมีลูกค้าไว้วางใจถือกรมธรรม์มากกว่า 1.5 ล้านฉบับ และจากการวัดความพึงพอใจในงานบริการสูงถึง 86.1%
ขณะเดียวกัน บริษัทยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมพัฒนาการบริหารจัดการข้อมูลในรูปแบบ “DATA Governance” เพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลที่มีอยู่ด้วยความถูกต้อง ปลอดภัย และเกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาสินค้าและบริการให้กับลูกค้า ตลอดจนบริหารจัดการความเสี่ยงขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายพีระพัฒน์ กล่าวอีกว่า ในด้านผลิตภัณฑ์ บริษัทได้คิดค้นและต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น หลังประสบความสำเร็จจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ “ประกันภัยรถยนต์ ธนชาต 2+จัดเต็ม” จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ “ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ธนชาต ONE LITE” และ “ประกันภัยรถยนต์ ธนชาต 3+จัดเต็ม” เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้าให้ครบทุก Segment อย่างครอบคลุม
เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่
นอกจากนี้ยังได้ให้ความสำคัญกับการต่อยอดแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้บริการที่น่าประทับใจ สะดวกรวดเร็ว สบายใจจากธนชาตประกันภัย โดยไตรมาส 3 นี้ เตรียมส่ง “Thanachart Insurance Line Official Account” แบบครบวงจร ต่อยอดการบริการให้ใกล้ชิดกับลูกค้าอีกขั้นหนึ่งด้วย
“จากประสบการณ์แนวทางการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนของเรา เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกภาคส่วน ทั้ง องค์กร ลูกค้า คู่ค้า และสังคม อันจะเป็นรากฐานในการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว ทั้งนี้ประชาชนหรือผู้สนใจที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม ร่วมลดอุบัติเหตุทางถนน สามารถแจ้งรายละเอียดข้อมูลพื้นที่จุดเสี่ยงในเขตชุมชน ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ : Safer on the Road” นายพีระพัฒน์กล่าว