ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า SET Index ปิดตลาดช่วงเช้าปรับตัวลดลง -24.35 จุด ที่ระดับ 1,552.25 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.02 หมื่น ลบ. เข่นเดียวกับดัชนี MSCI Asia Pacific Index X Japan -1.0% ต่ำสุดในตั้งแต่ พ.ค. ที่ผ่านมา ถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นฮ่องกง หลังทางการจีนตรวจสอบบริษัทจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐเกี่ยวกับวิธีระดมทุน
ขณะที่ดัชนี CSI 300 จีน -0.69% โดยธนาคารกลางจีนอาจพิจารณาปรับลดอัตรา RRR เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจขนาดเล็ก ส่วนการระบาดไวรัสสายพันธุ์เดลต้าในเอเชียมีแนวโน้มสูงขึ้น ก็เป็นหนึ่งปัจจัยกดดันการลงทุน นักลงทุนจึงเลือกถือสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตร, ทองคำ และเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ปัจจัยต่างประเทศวานนี้แม้ว่ารายงาน Fed Minutes มิ.ย. จะส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยและลด QE แต่ก็ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจสหรัฐในระยะต่อไปจะขยายตัวแรงหรือไม่ รวมถึงแนวโน้มเงินเฟ้อ
สำหรับดัชนี SET ช่วงเช้าปรับลดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,550 +/- โดยหุ้นกลุ่ม Big Cap เช่น ธนาคาร ไฟแนนท์ พลังงาน และท่องเที่ยวปรับลดลง จากความกังวลรัฐบาลอาจต้องใช้ ม.คุมเข้มมากขึ้น หลังรายงานผู้ติดเชื้อใหม่เช้านี้เพิ่มขึ้น 7,058 ราย และสัปดาห์หน้าอาจเพิ่มขึ้นระดับ 1 หมื่นราย/วัน
ล่าสุด สธ.เสนอให้จำกัดการเดินทางข้ามจังหวัด, ห้ามออกนอกเคหะสถานยกเว้นกรณีจำเป็น, ปิดสถานที่เสี่ยง และ WFH เป็นเวลา 14 วัน จะเสนอให้ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาในวันพรุ่งนี้ ภาคบ่ายประเมินดัชนี SET มีโอกาสปรับฐานลงสู่แนวรับ 1,544 – 1,550 จุด มีแนวต้าน 1,560 – 1,567 จุด ระหว่างรอประเมินมาตรการควบคุมการระบาด
